จากกรณีเรือยนต์ลากจูงฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวที่บริเวณ 3 แยกแม่น้ำเจ้าพระยา-แม่น้ำป่าสัก ก่อนจมลงใกล้ท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้สูญหาย 2 ราย ประกอบด้วย นายสมชาย ธารกุล อายุ 64 ปี และ นางนฤมล จันทรโชติ อายุ 51 ปี หลังเกิดเหตุ บริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ ได้ประสานเรือเครนเข้ากู้ซากเรือลากจูงซึ่งทำจากเหล็กขนาดความยาวประมาณ 12 เมตร กระทั่งวันที่ 2 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่พบศพ นายสมชาย คนขับเรือลากจูง ลอยอยู่ใกล้กับสะพานพระราม 8 โดย น.ส.จุฑาทิพย์ การกสิขวิธี บุตรสาวคนโตของ นายสมชาย ยืนยันว่าศพที่พบเป็นพ่อของตัวเอง เนื่องจากจำรอยสักเสือเผ่นที่กลางอก และนาฬิกาข้อมือที่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดให้กับพ่อได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงพยายามค้นหาร่างของ นางนฤมล ที่ยังสูญหาย โดยคาดว่าน่าจะติดอยู่กับซากเรือจูงที่จมอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยังไม่สามารถกู้ขึ้นมาได้
กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ 19 ธ.ค.64 เจ้าหน้าสามารถกู้เรือซากเรือจูงซึ่งจมอยู่ใต้แม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดพนัญเชิง ได้สำเร็จ โดยเจ้าหน้าที่ได้ลากจูงมาขึ้นฝั่งที่หน้ามัสยิดตะเกี่ย ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่กู้เรือ จึงเข้าไปค้นหาบริเวณใต้ห้องเครื่องยนต์ของเรือ พบโครงกระดูกซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นร่างของ นางนฤมล อยู่ในสภาพศีรษะแยกออกจากกัน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมชิ้นส่วนใส่ผ้าขาวก่อนผูกริบบิ้นดำแล้วนำขึ้นไปไว้บนท่าน้ำ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรเบื้องต้น ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ นำโครงกระดูกดังกล่าวไปให้แพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ จ.ปทุมธานี ชันสูตร ว่าเป็นร่างของ นางนฤมล หรือไม่
จากการสอบถาม น.ส.สุพรรษา ฤทธิ์ฉิม อายุ 22 ปี ชาว ต.ปากจั่น อ.นครลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นลูกของ นางนฤมล กล่าวว่า ตนกับ บริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้โทรศัพท์พูดคุยติดต่อกันตลอดเวลาถึงเรื่องการกู้เรือที่จมลงขึ้นฝั่ง และเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าจะมีการกู้เรือในช่วงก่อนปีใหม่ ตนก็ไม่คิดว่าจะมีการกู้เรือได้เร็วขนาดนี้ หลังจากนั้นบริษัทโทรศัพท์มาแจ้งว่าจะมีการกู้เรือในวันนี้ ตนจึงเดินทางมาพร้อมกับญาติ ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อดูการกู้เรือ เพราะคิดว่าจะพบร่างแม่ ตกเย็นตนดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถกูเรือขึ้นมาได้สำเร็จ ก่อนพบร่างของแม่ ติดอยู่ในห้องเครื่อง จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ และเจ้าหน้าที่กู้เรือ ที่ช่วยค้นหาร่างของแม่จนพบ ส่วนการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับแม่ คงต้องรอปรึกษากับญาติอีกครั้ง
ด้าน น.ส.จุฑาทิพย์ การกสิขวิธี อายุ 42 ลูกสาวคนโตของ นายสมชาย กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่เจอร่างของป้า เพราะตลอดระยะเวลาที่เกิดเรื่อง ตนรู้สึกสงสารคนในครอบครัวของป้าเป็นอย่างมาก วันนี้ทางครอบครัวของตนเองได้ตั้งศาลพระภูมิให้กับพ่อ ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ ตนเชื่อว่าพ่อของตน น่าจะดลจิตลดใจให้เจ้าหน้าที่สามารถกู้ซากเรือขึ้นมาจนพบร่างของป้า
ขณะที่ นายชัชชัย กิตติชัย ผู้บริหารสมาคมอยุธยารวมใจ กู้ภัย 2 กล่าวว่า หลังจากที่ทีมกู้เรือของบริษัทได้มาทำกู้เรือตลอดระยะ 3 วันจนสามารถนำเรือเข้าเทียบฝั่งได้ กระทั่งช่วงเย็นหลังจากที่สูบน้ำใต้ท้องเรือจนหมด เจ้าหน้าที่จึงลงไปค้นหาร่างผู้สูญหาย ก็ไปพบกับร่างของคุณป้า นอนอยู่ใต้ห้องเครื่องยนต์บริเวณด้านขวา สภาพเหลือแต่โครงกระดูก โดยมีดินโคลนทับอยู่เล็กน้อย
ล่าสุดวันนี้ ( 20 ธ.ค.64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาธรรมแสงศศิธร วัดละมุด ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการทำความสะอาดและจัดเตรียมสถานที่เพื่อตั้งอภิธรรมศพ นางนฤมล โดย น.ส.สุพรรษา ลูกสาวพร้อมคนในครอบครัว ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลพร้อมถวายสังฆทานให้กับ นางนฤมล ผู้เสียชีวิต โดยมีพระสงฆ์ 1 รูป ประกอบพิธี จากนั้น น.ส.สุพรรษา กล่าวว่า ช่วงเช้าได้ทำสังฆทานอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้กับคุณแม่ โดยตลอดระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนและครอบครัวรู้สึกกังวลว่าร่างของแม่ จะติดอยู่ในเรือ หรือลอยไปตามกระแสน้ำ จึงพยายามช่วยล่องเรือออกตามหาร่างของแม่ มาโดยตลอด แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าร่างของแม่ ติดอยู่ในเรือ เนื่องจากฝันเห็นแม่มาหา โดยยืนอยู่ในเรือ จนกระทั่งได้รับข่าวดีว่ากู้ซากเรือได้แล้ว และเจอร่างของแม่ ถึงแม้ว่าจะเป็นร่างไร้วิญญาณ แต่ตนก็ดีใจที่จะได้นำร่างของแม่ กลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี พร้อมฝากบอกแม่ที่ล่วงลับไปแล้วว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ขอให้หลับให้สบาย ส่วนน้องชาย ตนเองจะเป็นคนดูแลเอง อย่างไรก็ตามในช่วงเย็นวันนี้ในเวลาประมาณ 16.00 น. จะมีพิธีรดน้ำศพแม่ และจะมีการตั้งสวดอภิธรรมศพเป็นเวลาเป็นเวลา 3 วัน ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจในที่ 23 ธ.ค.นี้