‘อนุทิน’ยอมรับ กังวล’สายพันธุ์โอมิครอน’ชี้ ต้องใส่ยาแรงไปก่อน

'อนุทิน'ยอมรับ กังวล'สายพันธุ์โอมิครอน'ชี้ ต้องใส่ยาแรงไปก่อน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อยู่ระหว่างการรอผลตรวจยืนยันว่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน หรือไม่อีก 97 ราย ยอมรับว่ากังวลกับสถานการณ์ เพราะพบว่าแพร่ระบาดเร็วกว่าเดิม ขณะนี้ฝ่ายสาธารณสุขอยู่ระหว่างารติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ว่าความอันตรายของเชื้อโควิดโอมิครอนจะทำให้เกิดอาการป่วยเท่ากับสายพันธุ์เดลตาหรือไม่ โดยคาดหวังว่าความรุนแรงของโรคไม่น่าจะเกินจากเชื้อเดลตา หากเป็นเช่นนั้นก็ยืนยันได้ว่าประเทศไทยสามารถรับมือได้ และวัคซีนเข็ม 3 จะป้องกันอาการรุนแรงได้ แต่ต้องไม่ประมาทเพราะเป็นสายพันธุ์ใหม่ แต่ก็ได้เห็นแล้วว่าเพียง 20 วันไทยสามารถยืนยันผู้ป่วยถึงกว่า 60 ราย แม้จะยังต้องรอลุ้นในส่วนที่เหลือ

ทั้งนี้ ได้มีการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวัง เบื้องต้นยอมรับว่าคงจะต้องใส่ยาแรงไปก่อน จากนั้นเมื่อรับฟังเหตุผลจากผู้เกี่ยวข้องแล้วก็จะมีการผ่อนคลายลงตามความเหมาะสม ส่วนจะถึงขั้นล็อกดาวน์ประเทศหรือไม่นั้น ยืนยันว่าขณะนี้ทุกฝ่ายพยายามหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการล็อกดาวน์ และจะไม่ออกมาตรการที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยจะคำนึงถึงประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก ส่วนกรณีผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะยกเลิกมาตรการ Test&Go เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เนื่องจากผู้ประกอบการแบกรับภาระมามากแล้วนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องหารือร่วมกันอย่างรอบคอบ

สำหรับข้อเสนอทางการแพทย์ให้หยุดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จากการหารือกับทุกฝ่ายแล้ว ได้ข้อสรุปว่ายังมีนักท่องเที่ยวคงค้างเกือบ 2 แสนคน ต้องดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไปก่อน ซึ่งต้องมีการตรวจเชื้อแบบ RT-PCR มากขึ้นทุก 3-5 วัน และรายงานตัวอย่างต่อเนื่อง แต่จากนี้ไปจะเสริมบุคลากรเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยแล้วตามระบบ Thailand pass และ Test&Go ให้หมดก่อน จากนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนมาตรการต่อไป รายละเอียดขณะนี้อธิบดีกรมควบคุมโรคกำลังดูแลอยู่

พร้อมย้ำแนวทางรัฐบาลจะต้องดูแลคนไทยให้ปลอดภัย และลดความเสี่ยงในทุกมิติ และทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยที่สุด พร้อมย้ำหลังปีใหม่ต้องเข้มงวดตลอดเวลา คนไทยจะต้องมีความระมัดระวัง สิ่งสำคัญที่สุดรัฐบาลจะเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อสกัดการแพร่ระบาด และสร้างภูมิคุ้มกันให้มากที่สุด

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ซอนต้ารวมพลังจัดกิจกรรมจิตอาสาพลังรักสร้างวัยรุ่นเติบโตด้วยหัวใจ
สุดช้ำ หลังคำพิพากษาศาลฎีกา พ่อแม่ น้องหลิว 8 ปี ที่รอคอย โอดครวญ คงตายก่อนเยียวยา ไม่เคยได้รับการเยียวยา จากจำเลย หลังศาลฎีกา ตัดสิน จำคุกจำเลย ตลอดชีวิต คดี ผอ.โรงเรียน ฆาตกรรมลูกสาว สาวโรงงาน
พ่อเลี้ยงหื่น! มอมเหล้าลูกเลี้ยง วัย 16 ปี จนขาดสติก่อน ลวนลาม ขณะแม่อยู่ด้วยก็ไม่เว้น เครียดหนักเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย สุดอึ้ง!! เอาเรื่องไปบอกแม่ กลับไม่เชื่อ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ ยื่นสำนวนคดี “แอม ไซยาไนด์” ให้อัยการด้วยตัวเอง 14 รายการ
ราชกิจจาฯเผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้ชื่อใหม่ "เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี"
“แม่สามารถ” เครียดจัด ผูกคอคาห้องขังดีเอสไอ จนท.ช่วยระทึก ห่วงลูกจะอดข้าวประท้วง ขอความเป็นธรรม
เคราะห์ร้าย ! หนุ่มวัย 18 ปี ขี่จยย. ถูกกันสาดหล่นใส่หัวเจ็บสาหัส
ยูเครนลั่นไม่ทำลายทุ่นระเบิดอ้างถูกรัสเซียรุกราน
ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบดำเนินคดี “กลุ่มน้ำไม่อาบ” ทุกมิติ พร้อมเอาผิดตามหลักฐานคลิปที่ปรากฏ
ขุนเขา ‘ฮว่าซาน’ ่ของจีนสวยสะกดยามห่มหิมะขาว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น