สำหรับการหลบหนีนายโอฮัท ถึงประเทศไทย เวลา 00.10 น. แจ้งที่พัก 20 วัน ที่ โรงแรมและชำระค่าที่พักเป็นเวลา 3 วัน เมื่อเวลาประมาณ 01.14 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลปิยะเวช ได้มาทำการตรวจ RT-PCR Mr.OHAD ที่โรงแรมและพักคอยผลการตรวจ COVID-19
จากนั้น เวลาประมาณ 14.00 น.วันรุ่งขึ้น นายโอฮัท ได้เรียก TAXI สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทห-8022 กทม. โดยวมี นายนิตย์ เกาแสง เป็นพนักงานขับรถว่าจ้างจากบริเวณหน้าห้างเอ็มโพเรีย ไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา จ.ชลบุรี เป็นจำนวนเงิน 2,500 บาท
ช่วงเวลาเดียวกัน โรงแรมที่นายโอฮัทเข้าพักรับแจ้งจากโรงพยาบาล ว่า นายโอฮัทติดโควิด ชนิด Covid-19 SARS-CoV-2 1 (โควิดสายพันธ์ปกติ) จึงรีบไปลงประจำวันไว้ที่ สน.ทองหล่อ ขณะที่นายโอฮัทเดินทางมาถึง โรงแรมที่พัทยา เพื่อเข้าพักแต่ไม่ยอมแสดงพาสปอร์ต โรงแรมจึงไม่รับเข้าพัก จากนั้นใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง อยู่บริเวณพัทยา
ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 22.32 น. ได้ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ ผลปรากฎว่าปิดเครื่อง ขึ้นข้อมูลสถานที่สุดท้ายคือบริเวณ สนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อว่าเดินทางออกจากพัทยาไปยัง กทม. ปัจจุบันยังไม่สามารถติดต่อได้
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้ประสานเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค ให้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อนายโอฮัท ข้อหา ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรฯ ตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 40 อัตราโทษ ตาม พรก.ฉุกเฉิน ม.18 จำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท และ เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ไม่พักอาศัย ณ ที่ที่ได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม ม.37(2) ประกอบ ม.76 ระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ล่าสุดจนถึงเวลานี้ สน.ทองหล่อ ได้เร่งสืบสวนติดตามตัว โดยได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งติดตามตัวต่อไป เชื่อว่าน่าจะมีคนไทยพาหลบหนีเนื่องจากว่า นายโอฮัท ชำนาญเส้นทางในการหลบหนีเป็นอย่างดี