วันที่ 22 ธ.ค. – ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กข้อความว่า โควิด 19 โอมิครอน ความยากในการตัดสินใจของผู้บริหาร การระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน จะต้องเกิดในประเทศไทยอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ถ้าเป็นไปได้เราอยากให้ช้าที่สุดเพื่อรอระบบสาธารณสุขในการให้วัคซีนเข็ม 3 กระตุ้นให้ได้มากที่สุดก่อน การได้รับวัคซีน 2 เข็มไม่เพียงพอในการที่จะรับมือ โอมิครอน เพราะโอมิครอนจะเข้ามาได้เร็วจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ Test to go โดยไม่มีการกักตัว เป็นไปได้ยากที่จะป้องกันการหลุดรอดของโอมิครอน เข้ามาระบาดในประเทศไทย ผู้เดินทางเข้ามาอาจอยู่ในระยะฟักตัว หรือสัมผัสระหว่างการเดินทาง
ศ.นพ.ยงกล่าวว่า การป้องกันจะได้ผล จะต้องย้อนกลับไปแบบเดิม มีการกักตัว จะเป็น 7 วัน 10 วันหรือ 14 วันก็แล้วแต่ และการประกาศให้งดกิจกรรมบางอย่างในช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือลดการเดินทาง ก็จะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาการระบาดของโอมิครอน ถ้ามีการระบาดมากก็จะย้อนเป็นวงจรมาสู่ปากท้องประชาชน ผลทางเศรษฐกิจก็มีความสำคัญ สำหรับความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการแพร่กระจายของโรค ในขณะที่อัตราการตรวจพบโอมิครอน ในผู้เดินทางจากต่างประเทศและติดเชื้อ มีอัตราที่สูงขึ้นมาก โอกาสหลุดรอดจึงเป็นไปได้สูงมาก และถ้ามาประกอบกับ การเดินทางในช่วงปีใหม่ และการเฉลิมฉลองต่างๆ โอกาสแพร่กระจายของโรคก็เป็นไปได้สูง อัตราการแพร่โรคเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว บทเรียนจากประเทศในยุโรปและอเมริกา ที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ และบางประเทศต้องหันมาปิดประเทศอีกครั้ง
ศ.นพ.ยงกล่าวอีกว่า เราอยากรอให้โอมิครอน เข้ามาระบาดในประเทศไทยให้ช้าที่สุด (การป้องกันไม่ให้เข้ามา คงเป็นไปได้ยาก) เพื่อให้ระบบสาธารณสุข เตรียมรองรับ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะต้อนรับสายพันธุ์ โอมิครอน การตัดสินใจในวันนี้ จึงขึ้นอยู่กับผู้บริหารที่จะหาจุดสมดุลระหว่างการระบาดของโรคกับปากท้องของประชาชน การตัดสินใจจะต้องให้เร็วที่สุด ก่อนที่โอมิครอนจะเข้ามาระบาดในประเทศไทย