ทีมข่าวท็อปนิวส์นำตัวแทนผู้เสียหายที่ถูกหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่อ้างว่ามาจากบริษัทขนส่งสินค้า DHL และแจ้งว่าพัสดุที่ถูกส่งไปยังประเทศจีนในชื่อของตนนั้น ได้ถูกศุลกากรตรวจพบว่าเป็นของสิ่งผิดกฎหมาย เข้าพบ ว่าที่ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ดูแลกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้
โดยนายยศวินทร์ เพียรพิทักษ์ หนึ่งในผู้เสียหาย ระบุว่าแก๊งคอลเซนเตอร์กลุ่มนี้ทำกันเป็นขบวนการ มีทั้งปลอมเป็นคอลเซ็นเตอร์ เป็นพนักงาน DHL และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้กลวิธีหลอกล่อทางโทรศัพท์ว่ามีพัสดุที่มีสิ่งของผิดกฎหมาย และบอกว่ามีพฤติกรรมฟอกเงิน เพื่อล้วงข้อมูลและอ้างว่าจะอายัดบัญชี พร้อมทั้งออกหมายจับ ล่าสุดสูญเงินจนเกลี้ยงบัญชีกว่า 2 ล้านบาท จากเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่ามีผู้เสียหายทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ , เชียงราย , กรุงเทพมหานคร , นนทบุรี , ปทุมธานี ,สมุทรปราการ , ฉะเชิงเทรา , ชลบุรี , ขอนแก่น , อุบลฯ , ยะลา , สุราษฎร์ธานี มูลค่าความเสียหาย 23,123,775 ล้านบาท ทั้งนี้ต้องการให้กับตำรวจไซเบอร์ ติดตามจับกุมแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน ว่าที่ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่าปัจจุบันมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ระบาดหนัก โดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือหน่วยงานราชการต่างๆ โทรศัพท์หาผู้เสียหายแจ้งว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยข่มขู่ว่าหากไม่โอนเงินมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จะถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินให้เป็นจำนวนมากนั้น
จึงฝากเรียนพี่น้องประชาชนว่า ธนาคาร และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องให้เจ้าของบัญชีธนาคารโอนเงินมาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ เพราะการตรวจสอบบัญชีธนาคารจะดูจากรายการเดินบัญชีและเส้นทางการเงินเท่านั้น หรือหากมีความจำเป็นเจ้าหน้าที่ก็อาจอาศัยอำนาจในการอายัดเงินในบัญชีธนาคารดังกล่าว ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากมีผู้ใดอ้างว่าต้องให้ท่านโอนเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เนื่องจากไม่เป็นความจริง
ด้าน DHL บริษัทขนส่งชื่อดังประกาศเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแอบอ้างเป็น DHL Express เพื่อหวังข้อมูลส่วนบุคคลหรือทรัพย์สิน ซึ่งทางบริษัทฯยืนยันว่า ไม่มีนโยบายติดต่อหาลูกทางโทรศัพท์ในรูปแบบระบบอัตโนมัติ โดยทาง DHL ระบุว่า ขณะนี้มีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ DHL หรือ DHL Express เพื่อหวังข้อมูลส่วนบุคคลหรือทรัพย์สิน โดยใช้อุบายหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและเสียทรัพย์
บริษัทฯ ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าว และสงวนสิทธิในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้นำชื่อหรือเครื่องหมายการค้าไปกระทำผิดอย่างถึงที่สุด กรุณาอย่าหลงเชื่อ อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวหรือโอนเงินกับผู้ที่โทรศัพท์มา สิ่งที่ต้องทำคือ วางสายทันที นอกจากนี้ DHL Express ไม่มีนโยบายติดต่อลูกค้าผ่านระบบอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เบอร์ 02-345-5000 หรือตรวจสอบสถานะการจัดส่งของพัสดุระหว่างประเทศ โดยนำหมายเลข waybill ตรวจสอบที่เวปไซต์ของ DHL Express โดยตรง DHL Express ไม่มีนโยบายให้ลูกค้าแอดไลน์ส่วนตัว หรือให้โอนเงินเข้าบัญชีที่เป็นชื่อบุคคลเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าภาษี หรือค่าบริการเป็นอันขาด
การส่งของรางวัลจากต่างประเทศ โดยที่ไม่มีประวัติร่วมกิจกรรม เป็นกลอุบายที่มิจฉาชีพมักใช้บ่อย รวมถึง เงินสด และ ทองคำ เป็นหนึ่งในสิ่งของต้องห้ามที่ไม่สามารถขนส่งภายในเน็ตเวิร์คการขนส่งระหว่างประเทศของ DHL Express การกล่าวหาผู้ต้องหาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านทางโทรศัพท์หรือไลน์ ไม่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย มิจฉาชีพมักใช้กลโกงนี้หลอกลวงผู้เสียหาย ข่มขู่ และสร้างสภาพแวดล้อมสมมุติทางโทรศัพท์ให้เหมือนจริง เช่น เสียงเจ้าหน้าที่ เสียงวิทยุสื่อสาร หรือสร้างบัญชีไลน์ปลอมแปลงชื่อ รูปภาพ