“นายกฯ” เข้มปี 65 ตั้งเป้า ฉีดบูสเตอร์วัคซีน ป้องกันโควิดให้คนไทย!

"นายกฯ" เข้มปี 65 ตั้งเป้า ฉีดบูสเตอร์วัคซีน ป้องกันโควิดให้คนไทย!

วันที่ 23 ธ.ค.64. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ย้ำให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความถี่และความเข้มข้นในการเฝ้า ระวัง และติดตามนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ หรือคนไทยที่เดินทางกลับเข้าประเทศ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการเข้าประเทศและมาตรการสาธารณสุขที่กำหนด ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะผอ. ศบค. ดำเนินทุกมาตรการเพื่อป้องกันและชะลอการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน ขณะเดียวกัน ก็เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่อเนื่อง ทั้งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเปราะบาง รวมทั้งให้ทำความเข้าใจกลุ่มผู้ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน เพื่อให้เห็นประโยชน์ของการฉีดวัคซีนด้วย โดยตั้งเป้าหมายให้รณรงค์ให้ปีหน้าเป็นปีแห่งการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับคนไทยด้วย

โดยล่าสุด คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เห็นชอบ 2 เรื่องหลัก ๆ คือ 1. เห็นชอบฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่ 4 กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และบุคลากรด่านหน้า รวมทั้งกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ 2. เห็นชอบให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแก่เด็กอายุ 5-11 ปี โดยเป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยที่ผู้ปกครองและเด็กต้องแสดงความสมัครใจและยินยอม

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ มีจำนวน 2,940 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 2,798 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 125 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 53 ราย หายป่วยกลับบ้าน 2,798 ราย หายป่วยสะสม 2,114,760 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 38,314 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 30 ราย

“นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อของสถานการณ์ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดิม คือ เดลต้า ไปสู่โควิด-19 กลายพันธุ์ โอมิครอน ซึ่งกำลังเป็นความท้าทายระบบการป้องกันและควบคุมโรคที่ไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ รัฐบาลและ ศบค. มีความจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเข้มข้น ระงับการเดินเข้าประเทศแบบ Test and Go และ Sandbox ชั่วคราว ซึ่งรัฐบาลเข้าใจและเห็นใจผู้ประกอบการ ภาคเอกชน ที่อาจต้องปรับรูปแบบการประกอบการให้เข้ากับสถานการณ์และความจำเป็นในระยะนี้ ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยซึ่งกันและกันด้วยการดำเนินกิจกรรมได้ภายใต้มาตรการ COVID Free Setting และขอให้ทุกคนปฏิบัติตาม Universal Prevention อย่างเคร่งครัด รวมถึงตรวจ ATK เป็นระยะ ๆ รัฐบาลพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนให้ใช้ช่วงเวลาเทศกาลปลายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างมีความสุขและปลอดภัย”

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ภูมิธรรม” ย้ำชัดไม่มีโพลเอาใจนาย ชี้นำกม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ลั่นทุกอย่างมีไทม์ไลน์ ทำอย่างรอบคอบ
เกาหลีใต้สั่งอพยพประชาชนหนีตายไฟป่า
สหรัฐถล่มศูนย์กักกันชาวแอฟริกาที่เยเมนดับเกือบ 70 ราย
สภาองค์กรของผู้บริโภค ร้อง "ผู้ว่าฯกทม." เร่งตรวจสอบความปลอดภัยอาคารสูง 50 เขต ภายใน 30 วัน หลัง 11 ชุมชน แจ้งเบาะแส พบบางแห่ง ทำผิดกม.
ชี้เป้า วิธีจ่ายค่าไฟ แบบไม่มีค่าธรรมเนียม
"นายกฯ" ไข้กลับ หน้าซีด อ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่นครพนม เรียกทีมแพทย์เช็กอาการด่วน
"CPF เคียงข้างยามวิกฤต" ชวนคนไทยส่งต่อพลังแห่งการให้ รพ.รามาธิบดี
"อธิบดีกรมอุทยานฯ" แจงยิบปมเงินรายได้ ยอมรับเตรียมปลด ‘ทราย สก๊อต’ พ้นที่ปรึกษา เหตุทัศนคติไม่ตรงกัน วอนรถทัวร์ดูข้อเท็จจริง
"พิพัฒน์" นำทีมเยี่ยมกลุ่มอาชีพอิสระ เครือข่ายแรงงาน นครพนม รับฟังปัญหา พร้อมเดินหน้ากองทุนหนุนพัฒนาอาชีพ
ATC ยื่นจม.ฉบับ 2 ขอ “นายกฯ” เร่งแจงข้อเท็จจริง ปมตึกสตง.ถล่ม ภายใน 15 วัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น