นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า รายการเล่าข่าวข้นเมื่อสักครู่นี้โดยคุณกนก และคุณธีระ รายงานว่ามีผู้พิพากษาท่านหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ นาย วิชิต ลีธรรมชโย ) เข้าร่วมแสดงตนในกลุ่มผู้เรียกร้องให้แก่ผู้กระทำความผิดมาตรา 112 ตนขอเรียนให้ทราบทั่วกันว่า ตนได้ร้องเรียนผู้พิพากษาคนดังกล่าวต่อคณะกรรมการตุลาการ (ผ่านเลขาธิการ สำนักงานศาลยุติธรรม) เมื่อ 15 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ตนได้ขอให้คณะกรรมการตุลาการตรวจสอบคุณสมบัติผู้พิพากษาท่านนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมเป็นผู้ไม่เลื่อมใสในสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งตนได้นำสารร้องเรียนถึง เลขาธิการ สำนักงานศาลยุติธรรม ด้วยตัวเอง เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการตุลาการให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้พิพากษาท่านนี้
นายแพทย์เหรียญทอง กล่าวอีกว่า ตนได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการตุลาการว่า ผู้พิพากษาคนดังกล่าวมีทัศนะคติ (ATTITUDE) ค่านิยม ตลอดจนมีพฤติกรรมอันเข้าข่ายเป็นแนวร่วมผู้ชุมนุมก่อความไม่สงบที่แสดงออกถึงพฤติกรรมการเป็นอริราชศัตรู โดยมีการแสดงออกหน้าที่ทำการศาลฎีกา เมื่อวันที่ 13 ก.พ.64 ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพถ่าย ทั้งนี้ผู้พิพากษาคนดังกล่าวยังได้แสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์โดยใช้นามว่า Wichit XXX ซึ่งความคิดเห็นนั้นเป็นไปในแนวทางที่ฝักใฝ่การเมืองที่เป็นแนวร่วมของอริราชศัตรู
นายแพทย์เหรียญทอง กล่าวอีกว่า ตนได้ขอความกรุณาจากคณะกรรมการตุลาการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งจะประจักษ์ชัดต่อคณะกรรมการตุลาการเองว่า ผู้พิพากษาคนดังกล่าวมีทัศนะคติ(ATTITUDE) ค่านิยม ตลอดจนมีพฤติกรรมที่เป็นไปในแนวทางฝักใฝ่การเมืองที่เป็นแนวร่วมของอริราชศัตรูเยี่ยงนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าหาได้เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งถือว่าหาได้มีคุณสมบัติของข้าราชการฝ่ายตุลาการตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 มาตรา 26 และจะนำมาซึ่งอคติในการปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยซึ่งอาจไม่เป็นไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งยังอาจเป็นภัยร้ายแรงต่อพระมหากษัตริย์หรือสถาบันซึ่งเป็นความมั่นคงของชาติ ทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ อันจะนำมาซึ่งความไม่สงบสุขแห่งราชอาณาจักรส่งผลต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
นายแพทย์เหรียญทอง กล่าวว่า เนื่องจากภัยคุกคามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ปรากฎต่อสาธารณะอย่างเป็นรูปธรรม ร้ายแรงจนถึงกับมีการประกาศประทุษร้ายพระมหากษัตริย์ในที่ชุมนุมสาธารณะ หลายครั้งหลายครา หากทุกสังคมไม่จริงจังหรือเอาใจใส่สังคมที่ตนเกี่ยวข้องแล้ว สถานการณ์ภัยคุกคามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จะทวีความรุนแรงจนเป็นเหตุแห่งความไม่สงบสุขภายในราชอาณาจักรไทยและอาจเกิดการสูญเสียชีวิตของคนในชาติ ด้วยเหตุผลดังความที่กล่าว ตนจึงขอความกรุณาจากคณะกรรมการตุลาการ ได้โปรดตรวจสอบผู้พิพากษาคนดังกล่าวเป็นการด่วน หากได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วพบว่ามีทัศนะคติ ค่านิยม ตลอดจนพฤติกรรมที่เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับอริราชศัตรูแล้วได้โปรดดำเนินการตามประมวลวินัยหรือกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องโดยมิชักช้า
นายแพทย์เหรียญทอง ยังกล่าวอีกว่า ตนไม่ได้รู้จักหรือมีความสัมพันธ์ส่วนตัว ทั้งไม่เคยมีข้อพิพาทขัดแย้งกับผู้พิพากษาคนดังกล่าวมาก่อน แต่เมื่อพบข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติอันไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 มาตรา 26 แล้วจึงร้องเรียนต่อคณะกรรมการตุลาการเพื่อดำเนินการตามประมวลวินัยหรือกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องต่อไป
“วันนี้ 23 ธ.ค.64 ผู้พิพากษาคนนี้ได้แสดงตนเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับอริราชศัตรูดังที่ผมเคยร้องเรียนมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 15 มี.ค.64 ผมขอถามคณะกรรมการตุลาการว่าทำไมท่านทั้งหลายจึงปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการกับนายคนนี้ ทั้งๆที่ผมได้ร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการตุลาการเมื่อ 15 มี.ค.64 แล้ว คณะกรรมการตุลาการปล่อยปละละเลยให้มีผู้พิพากษาผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ฝักใฝ่อริราชศัตรูกันอย่างนี้กันได้อย่างไร … เลวชิบหาย ไอ้เหี้ยตระบัดสัตย์กันสิ้นดี ด้วยความไม่เคารพอย่างสูงสุด พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 23 ธ.ค.64 เวลา 21.49 น. ” นายแพทย์เหรียญทอง กล่าว
นายแพทย์เหรียญทอง กล่าวว่า ตนมีความจำเป็นต้องปกปิดอักษรบางตัวของผู้พิพากษาคนดังกล่าวเพราะเกรงว่าถูกเฟซบุ๊คระงับการใช้งานของตน ไม่ได้เกรงไอ้เหี้ยผู้พิพากษาตัวนี้ฟ้องหมิ่นประมาท