นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภาหรือ ส.ว. โพสต์เฟสบุ๊กถึงกรณีบุคคลที่อาจเป็นผู้พิพากษาปรากฎตัว ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มราษฎรหน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 พร้อมแนบรายละเอียดพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม และประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ โดย นายสมชาย ระบุว่า เพื่อเป็นข้อมูลและข้อกฎหมายประกอบการพิจารณา กรณีสื่อมวลชนและภาคประชาชนบางส่วนตั้งประเด็นสงสัยเกี่ยวกับบุคคลที่อาจเป็นผู้พิพากษาปรากฎตัว ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มราษฎรหน้าศาลอาญา ที่มีการเรียกร้องให้ศาลปล่อยผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา112 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมาว่ากระทำได้หรือไม่ และจะขัดต่อจริยธรรมข้าราชการฝ่ายตุลาการ หรือพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 หรือไม่ โดยพิจารณาประกอบจากคลิปวิดิโอบันทึกการถ่ายทอดของเพจผู้ชุมนุมชื่อสำนักข่าวราษฎรและภาพถ่ายที่สื่อมวลชนถ่ายไว้ เพื่อเป็นข้อมูลที่คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ กต. จะได้พิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ให้บุคคลดังกล่าวได้ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นพิจารณาในส่วนที่ 2 การรักษาวินัย ตามมาตรา68,69,70,71 และมาตรา72 เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นการกระทำที่สงสัยว่า ขัดต่อมาตรา 55 มาตรา60 และมาตรา 62 และตามประมวลจริยธรรมข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้อ 33-35 หรือไม่
สำหรับกรณีผู้ชุมนุมบางคน อาทิ นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า ที่ปรากฎวิดิโอคลิปว่า เป็นผู้ถือไมค์ตะโกนตะโกนด่าศาลยุติธรรมหน้ารั้วประตูศาลอย่างหยาบคายนั้น น่าจะเข้าข่ายดูหมิ่นศาล ซึ่งบัญญัติความผิดไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 ว่า “ผู้ใดดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ส่วนที่เกี่ยวข้องคงจะต้องพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้นายสมชาย ยังได้แนบลิงค์วิดิโอการชุมนุมวันดังกล่าว รวมถึงข่าวจากสื่อต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมเตือนผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็น ขอให้เป็นไปอย่างสุภาพและพึงระมัดระวังไม่ให้เป็นการดูหมิ่นศาลหรือกระทบต่อศาลยุติธรรมในภาพรวม