ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุภายหลัง ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่า ตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 มีเชื้อโควิดโอมิครอน ได้ยืนยันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการลดความเสี่ยงการติดเชื้อโอมิครอน คือการได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้โดยเร็วที่สุด วันนี้ได้เริ่มรณรงค์การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 และเข็ม 4 อนาคต หากจะต้องมีเข็มกระตุ้น เข็ม 5 เข็ม 6 ต้องเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว ยืนยัน กระทรวงสาธารณสุข มีวัคซีน โควิด-19 เพียงพอให้บริการกับประชาชน
ส่วนกรณีที่มีการแชร์ข้อความว่าจะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ถึงการล็อคดาวน์ประเทศ อีกครั้ง นาย อนุทิน ยืนยัน ยังไม่มีการล็อคดาวน์ ขอให้ประชาชนฉลองเทศกาลปีใหม่ภายใต้ มาตรการสาธารณสุข แต่เบื้องต้นทางกรุงเทพมหานคร ในส่วนการจัดงานของหน่วยงานได้ยกเลิกการจัดงานต่างๆ ส่วนประชาชนหากจะจัดงานหรือจะไปสังสรรค์ ก็ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัย การป้องกันโรค และเลี่ยงไปยังพื้นที่ ที่มีการจัดงานรวมกลุ่มขนาดใหญ่ ที่มีคนหมู่มาก
เน้นย้ำ ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ คุมเข้ม มาตรการการจัดงานช่วงปีใหม่ อย่าเกรงใจใคร โดยขอให้รับฟังข้อมูลจากทางสาธารณสุขจังหวัด และประเมินสถานการณ์ พิจารณาถึงความเสี่ยงต่างๆ
ส่วนกรณี 2 สามี และภรรยา ที่เดินทางจากประเศเบลเยี่ยมเข้าประเทศไทยผ่านระบบ Test & Go แล้วกลับบ้านไปที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดอุดรธานี ก่อนจะพบว่า ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ล่าสุด นายอนุทิน เปิดเผยว่า ในกลุ่มนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงกว่า 100 คน ในจำนวนนี้ รับรายงานมีผู้ติดเชื้อโอไมครอน แล้ว 22 คน ในจำนวนนี้ 19 คน เป็นพนักงานร้านอาหารที่สามี ภรรยาเดินทางไปกินอาหาร ส่วนอีก 3 คน เป็นคนในครอบครัว ทั้งนี้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโอมิครอนในไทย มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 205 คน
ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเบื้องต้น พบว่า โอกาสในการแพร่ระบาดสู่คนอื่นค่อนข้างต่ำ เนื่องจากเชื้อน้อย และเป็นซากเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการติดตามสอบสวนโรคผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมดแล้ว และยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม
ทั้งนี้ได้กำชับให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตรวจสอบการเข้าพักโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่กักตัว เพื่อกำชับให้โรงแรมต่างๆปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่เคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการหลุดลอดของผู้กักตัวอีก
อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วว่า โรงแรมดังกล่าว มีความหละหลวมไม่เข้มงวด จริง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพก็จะเข้าไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งตามหลักการโรงแรมที่จะขอเข้าเป็นสถานกักกันโรค หรือASQ จะต้องมายื่นขอขึ้นทะเบียนกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและจะต้องผ่านการประเมินมาตรการต่างๆก่อนได้รับการอนุมัติ
ขณะที่ข่าวดีล่าสุด แอสตร้าเซนาก้า ได้ออกแถลงการณ์ ยืนยัน ถึงประสิทธิภาพวัคซีนหากได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนาก้า เข็มที่ 3 ประสิทธิภาพในการป้องกันทั้งการติดเชื้อโควิด และลดอัตราการเจ็บป่วยและลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพดี
ซึ่งแอสตร้าเซนาก้า มีข้อมูลยืนยันว่าหากมีกระตุ้นวัคซีนแอสตร้าเซนาก้าเข็ม3 หลังรับแอสตร้าฯไปแล้ว2เข็ม จะมีประสิทธิภาพต่อสายพันธุ์ โอมิครอนได้ถึงร้อยละ 90
ข้อมูลดังกล่าว จะนำเข้าสู่คณะ อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค พิจารณา สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนาก้าไปแล้ว 2 เข็ม ก็จะได้รับการกระตุ้น แอสตร้าเซนาก้า เข็มที่ 3 ทันที
สำหรับการเลือกรับวัคซีนโควิด นายอนุทิน ระบุว่า ขอให้เชื่อคำแนะนำแพทย์ดีกว่า อย่าไปเลือกเอง เนื่องจากก่อนจะมีการประกาศแนวทางใดออกมา หมายความว่า ได้ผ่านการพิจารณาข้อมูลมาแล้ว
อย่างไรก็ตามวัคซีนแอสตร้าเซนาก้า เบื้องต้นจะทยอยส่งมอบครบ 61ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ ส่วนปีหน้า ทางบริษัทผู้ผลิตจะเร่งจัดส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ารุ่นที่ 2 ให้กับไทย
โดยข้อมูลตอนนี้จากทั่วโลก สายพันธุ์โอมิครอน ยังไม่ได้มีความรุนแรงมากไปกว่าสายพันธุ์อื่นก่อนหน้านี้ หากข้อมูลยังเป็นเช่นนี้ เชื่อว่า น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะนี้ไทยมีประสบการณ์และมีการเตรียมพร้อมในทุกด้านรองรับไว้แล้ว
บริหารกระทรวงได้จัดงานแสดงความสำเร็จในการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศไทยบรรลุเป้าหมายระยะแรก 100 ล้านโดส