วันที่ 25 ธ.ค.64 นายถาวร เสนเนียม อดีตรมช.คมนาคม อดีตส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำกปปส.ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้างานให้กำลังใจนักสู้ทางการเมือง ว่า วันนี้ถือเป็นการรำลึกถึงวีรบุรุษทางการเมือง
กลุ่มกปปส.ที่ร่วมกันต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้สำเร็จ จนนำไปสู่คดีถูกศาลอาญาตัดสินจำคุกแต่โทษจำคุกไม่สามารถที่จะกักขังความตั้งใจและความหวังดีที่จะเล่นการเมืองของตนได้ ต้องการเข้าไปแก้ปัญหาบ้านเมือง
ทั้งนี้แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้ตนขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส แต่ไม่ได้ตัดสิทธิ์ทางการเมือง จึงสามารถที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าได้ทันแน่นอน ยืนยันว่าตนมีความตั้งใจที่จะเล่นการเมืองต่อ
ส่วนจะสมัครเป็นสมาชิกและร่วมอุดมการณ์ทางการเมืองกับพรรคไทยภักดีหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเล่นการเมืองกับพรรคไหน และมีการทาบทามมาอย่างน้อย 4 พรรคแล้ว ต้องขอขอบคุณทุกพรรคการเมืองที่ทาบทามมา แต่ขอเวลาตนเองตั้งหลักก่อน ส่วนพรรคไทยภักดีนั้น ตนขอศึกษาก่อนว่า มีแนวคิดอุดมการณ์และแนวนโยบายอย่างไร ถ้าถูกใจก็ไปกันได้ ซึ่งพรรคไทยภักดี ก็ถือว่าถูกใจในระดับหนึ่ง ส่วนอุดมการณ์หลักที่ตนเองต้องยึดไว้ ที่ตนได้ประกาศไว้ในการปฏิรูปประเทศ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า โดยต้องรักชาติศาสนา พระมหากษัตริย์และมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใครก็แล้วแต่ที่คิดจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องข้ามศพตนไปก่อน อุดมการณ์ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำลดความยากจนให้ได้ ปราบปรามนายทุนผูกขาดพรรคการเมืองและ การทุจริตคอรัปชั่น รวมถึงต้องมีการกระจายอำนาจ และการปฏิรูปการศึกษาต้องเตรียมความพร้อมเยาวชนเข้าสู่การแข่งขันกับประชาคมโลกให้ได้ นอกจากนี้ต้องขับเคลื่อนคือเศรษฐกิจรากหญ้า ลดระดับความยากจนของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด
นายถาวร ยังกล่าวว่า แนวทางเรื่องการสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีอยู่ต่อในสมัยหน้านั้นส่วนตัวมองว่าต้องรอดูศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน ว่าอยู่เกิน 8 ปีได้หรือไม่ ในส่วนของพลเอกประยุทธ์แม้ว่าไม่มีร่องรอยการทุจริตด้วยตัวเอง แต่คนใกล้ตัวนายกฯยังมีข้อสงสัยและกังวลใจว่าคนใกล้ชิดจะทำให้นายกฯเสื่อมเสียหรือไม่ ดังนั้นการจะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ต่อหรือไม่ ขอให้ดูกันต่อไป อยู่ที่การกระทำ อยู่ที่ความรับผิดชอบต่อประชาชนและสัจจะในวันที่ยึดอำนาจ มาในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ว่าต้องการที่จะปฏิรูปประเทศไทยได้ดำเนินการไปถึงขั้นไหนแล้วและข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชนกปปส. 5 ข้อนั้นดำเนินการไปถึงไหนแล้ว การตั้งสภาปฏิรูปทำได้แค่ไหนแล้วหรือทำได้แค่พูด ท่านลืมหรือยัง ถ้าพูดด้วย ทำด้วย ทำจริง ก็ยินดีสนับสนุนเต็มที่ แม้ว่าหลังจากถูกดำเนินคดียังไม่ได้พูดคุยกับคนเอกประยุทธ์เป็นการส่วนตัวก็ตามถือว่าไม่เป็นไรและไม่ได้โกรธ เราเป็นเรื่องที่ลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับผิดชอบไม่หนีแม้แต่ก้าวเดียว ซึ่งพลเอกประยุทธ์ยังมีเวลาดีกว่าในการพิสูจน์ตัวเองเพราะระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คนจึงขอฝากไปยังพลเอกประยุทธ์ที่เคารพในฐานะน้องชายที่เคารพคนหนึ่ง ท่านยังพอมีเวลาแก้ตัว” นายถาวร ระบุ