เปิด ‘ฉายาสภา’ ปี64 ยกเป็น ‘สภาอับปาง’

เปิด 'ฉายาสภา' ปี64 ยกเป็น 'สภาอับปาง' อัดผู้ทรงเกียรติไม่ยึดประโยชน์ชาติ-ประชาชน ด้านปธ.สภาฯ ได้ฉายา “ชวนพลังท่อม” ขณะที่ “หมอชลน่าน” คว้าตำแหน่งดาวเด่น ส่วน “วิรัช” ได้ดาวดับ ยก “แผนกบฎล้มนายก” เป็นเหตุการณ์แห่งปี ชี้ “ส.ว.เสรี-วิโรจน์ ก้าวไกล” คู่กัดซัดกันแรง

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมร่วมกันของผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ได้มีความเห็นร่วมกันในการตั้งฉายาของรัฐสภา เพื่อเป็นการสะท้อนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยมีข้อสรุปดังนี้

1.ฉายาสภาผู้แทนราษฎร : สภาอับปาง
เหตุผลเพราะสภาผู้แทนราษฎรเปรียบเสมือนเรือขนาดใหญ่ บรรทุกความรับผิดชอบชีวิตของประชาชนและงานบริหารราชการแผ่นดิน ด้วยวิธีการเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับต่างๆ เพื่อให้หน่วยราชการได้มีอำนาจไปบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎร แต่พบว่าเรือสภาฯลำนี้ในรอบปี 2564 กลับประสบปัญหาสภาล่มอับปาง โดยเริ่มตั้งแต่ปลายสมัยประชุมสามัญของรัฐสภา สมัยแรก และหนักข้อขึ้นตลอดเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ซึ่งตามปกติปัญหาสภาล่มไม่ใช่เรื่องปกติ แต่สภาฯชุดนี้กลับทำให้เห็นอยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นความซ้ำซาก และไม่คิดที่จะอุดรูรั่วของเรือเพื่อป้องกันปัญหา ทั้งที่ความจริงสภาล่มคือเรื่องใหญ่ เพราะนั่นหมายถึงงานราชการต่างๆที่รอให้สภาผ่านหยุดชะงักลง ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาส เพียงเพราะส.ส.ฝั่งรัฐบาลไม่ตระหนักถึงหน้าที่ของส.ส. ประกอบกับตายใจว่าตนเองเป็นเสียงข้างมากและพ้นจากภาวะเสียงปริ่มน้ำไปแล้ว จึงเข้าร่วมประชุมสภาฯน้อย ขณะเดียวกันส.ส.ฝ่ายค้านมัวแต่จ้องจะเล่นเกมการเมือง เมื่อเห็นว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอยู่น้อย จะขอนับองค์ประชุมทันที และพร้อมใจไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม ทั้งที่อยู่ร่วมพิจารณาเรื่องต่างๆในที่ประชุมสภาฯ ฉะนั้น การที่สภาอับปางบ่อยกว่าเรือล่ม จึงเป็นการสะท้อนว่าส.ส.ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ยึดถือประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง

2.ฉายาวุฒิสภา : ผู้เฒ่าเฝ้ามรดก (คสช.)
เหตุผลเพราะสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ถูกมองว่าคอยทำหน้าที่ปกป้องเฝ้ารักษามรดกที่เป็นโครงสร้างและกลไกสืบทอดอำนาจของคสช.อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญที่ทั้งฝ่ายค้าน และภาคประชาชนพยายามเสนอขอแก้ไขเรื่องการล้มล้างอำนาจคสช. ทั้งการยกเลิกแผนการปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี การยกเลิกคำสั่งต่างๆของคสช.และหัวหน้าคสช. การยกเลิกส.ว.หรือริบอำนาจส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ต่างถูกส.ว.โหวตคว่ำ ไม่ให้ความเห็นชอบทุกครั้ง ใครที่คิดจะทำหรือแก้ไขกฎหมายที่มีผลกระทบต่อกลไกอำนาจของคสช. จะถูกผู้เฒ่าส.ว.ต่อต้าน ขัดขวางไปหมด เหมือนกับคอยพิทักษ์มรดกของคสช.ให้อยู่สืบต่อไป

3.ฉายานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร : ชวนพลังท่อม
เหตุผลเพราะฉายานี้ได้มาจากการติดตามการทำงานของ “ชวน หลีกภัย” ทั้งการนั่งเป็นประธานบนบัลลังก์ในการประชุมสภาฯ และการประชุมรัฐสภา ที่สามารถนั่งควบคุมการประชุมได้อย่างยาวนาน พลันเสร็จจากงานประธานในที่ประชุมก็ปฏิบัติภารกิจอื่นๆอีกมากมาย ขึ้นเหนือล่องใต้เยี่ยมเยือนประชาชนทั่วประเทศอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ราวกับคนเคี้ยวใบกระท่อมที่จะมีเรี่ยวแรง อึด ถึก ทนมากเป็นพิเศษ

4.ฉายานายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา : ร่างทรง
เหตุผลเพราะนายพรเพชร วิชิตชลชัย ทำงานให้คสช.มายาวนาน ตั้งแต่สมัยคสช.เรืองอำนาจ ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จนมาถึงยุคปัจจุบันที่คสช. กลายร่างมาเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง นายพรเพชรก็ยังได้รับความไว้วางใจต่อเนื่องให้เป็นประธานวุฒิสภา เพื่อเป็นหัวขบวนของสมาชิกวุฒิสภาคอยช่วยเหลือสนับสนุนภารกิจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่บทบาทของนายพรเพชรในฐานะประธานวุฒิสภา ไม่มีความโดดเด่น ทั้งที่เป็นถึงประมุขสภาสูง และยังถูกมองว่า คอยสนองความต้องการของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ตำแหน่งประมุขสภาสูงของนายพรเพชร จึงเป็นเพียงหัวโขนทางการเมือง แต่ไม่มีอำนาจแท้จริง ไม่ต่างจากร่างทรงที่ถูกฝ่ายกุมอำนาจกุมบังเหียน ต้องคอยช่วยคอนโทรลให้การทำงานของวุฒิสภาเป็นไปตามความต้องการของรัฐบาล

5.ฉายานายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร : สมพงษ์ตกสวรรค์
เหตุผลเพราะแม้ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ จากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ก็ตาม แต่นพ.ชลน่าน เพิ่งเข้ามาและยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ ฉะนั้น จึงขอตั้งฉายาให้กับนายสมพงษ์ไปก่อน อย่างไรก็ตาม นายสมพงษ์ได้ตำแหน่งมาเพราะมีคนมอบให้ นอนมาแบบแบเบอร์ ไร้คู่แข่ง แต่ครั้นได้รับตำแหน่งกลับไร้บทบาท ไม่โดดเด่น มิหนำซ้ำเรื่องเล็กๆน้อยๆยังพลาด เช่น เมื่อปลายเดือนสิงหาคม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายสมพงษ์ ก็เอ่ยชื่อ-นามสกุลพล.อ.ประยุทธ์ ผิดติดต่อกัน 2-3 ครั้ง กระทั่งมีการประชุมใหญ่สามัญพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เท่ากับหลุดจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯโดยปริยาย จึงเปรียบได้ว่าเป็น “สมพงษ์ตกสวรรค์”

6.ดาวเด่นแห่งปี : นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อย่าลืมคนนี้! “เคลวิน” แฟนบอสมิน เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ หรือขึ้นแท่นบอส
โจ๋ยกพวกถล่มผิดคน หนุ่มไรเดอร์ถูกยิงดับ ย่านรามอินทรา จนท.เร่งตามตัวดำเนินคดีตามกม.
แชร์สนั่นโซเชียล! จวกยับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โยนขยะลงทะเลพัทยา
"ดร.อานนท์" เล่าเบื้องหลังตร.ทำคดี "ดิ ไอคอน" หลังได้เข้าไปช่วย "กองปราบ" วิเคราะห์รูปคดี
'ว.วชิรเมธี' เตือน 'หนุ่ม กรรชัย' อย่าทำตัวเป็นศาลเตี้ย ปล่อยให้คนใส่ร้ายป้ายสี โซเชียลเมนต์เพียบ ก่อนลบโพสต์ทิ้ง
อุตุฯ เตือน ฝนฟ้าคะนอง 31 จว.อ่วม ฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.เจอฝน 70%
"เกรียงศักดิ์" แนะรัฐบาลเร่งสร้างแบรนดิ้งประเทศไทย ควบคู่ขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power จริงจัง
ถึงเรือนจำแล้ว "17 บอส ดิไอคอน " คอตกนอนคุกคืนแรก เปลี่ยนสวมชุดนักโทษ รอตรวจสภาพร่างกาย
"พาณิชย์" เปิดอบรมบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ ก้าวสู่ความสำเร็จ นักธุรกิจมืออาชีพ
สพฐ. จับมือ กองทุนโครงการอาหารกลางวันนักเรียน สร้างการศึกษาเท่าเทียมเติมคุณภาพชีวิตเด็กไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น