วันนี้ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจ เรื่อง บุคคลของสังคมแห่งปี 2564 ในใจประชาชน เมื่อถามถึง คนดีของสังคม แห่งปี 2564 ที่มีบทบาทสำคัญช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ด้อยโอกาส ระดมทุนบริจาคเพื่อความดีส่วนรวมของสังคม 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 ตูน บอดี้สแลม อาทิวราห์ คงมาลัย ร้อยละ 44.1 เพราะเป็นผู้จุดกระแสการช่วยเหลือแบ่งปันจากคนทุกระดับ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ไม่หวั่นไหวในการทำความดี ยอมเสียสละทั้งแรงกายและแรงใจ อันดับที่ 2 ได้แก่ ปวีณา หงสกุล ร้อยละ 29.4 เพราะเป็นผู้ที่ช่วยเหลือผู้หญิง และเด็ก จนเกิดภาพจำว่า “แม่พระคนยาก โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก” และอันดับที่ 3 ได้แก่ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ร้อยละ 25.9 เพราะช่วยเหลือคนยากคนจน ผู้ตกทุกข์ได้ยาก จนเกิดภาพจำ นางฟ้าขาลุย
ที่น่าสนใจคือ คุณหมอของสังคมแห่งปีช่วยวิกฤตโควิด 3 อันดับแรก อันดับที่ 1 ร้อยละ 39.9 ได้แก่ หมอยง ภู่วรวรรณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะเป็นแพทย์คนแรกที่ออกมาทำให้สังคมไทย รู้และเข้าใจเรื่องโควิด -19 และวัคซีน อันดับที่ 2 ร้อยละ 36.0 หมอเหรียญทอง แน่นหนา โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ เพราะเป็นแพทย์ในกลุ่มต้นๆ ที่ออกตัวช่วยเหลือประชาชนผู้ติดเชื้อโควิดและจัดสรรพื้นที่ให้ผู้ป่วยหนัก รวมถึงได้ภาพจำของนายแพทย์ผู้ปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ คนจริงพูดตรงไม่กลัวใคร และอันดับที่ 3 ร้อยละ 22.2 ได้แก่ หมอนิธิ มหานนท์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพราะเป็นหมอที่ช่วยบริหารจัดการและคลี่คลายสถานการณ์เรื่องวัคซีนโควิด-19
ส่วนบุคคลแห่งปีที่ช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนและปัญหาสังคม หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน แหล่งน้ำ และอื่น ๆ ลดความเดือดร้อนปัญหาปากท้องของประชาชน 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ รองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 40.0 เพราะใส่ใจแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยเฉพาะความเดือดร้อนทุกข์ยากของคนฐานราก เช่น หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน ปัญหาค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังยากต่อการแก้ไขแต่ พลเอกประวิตร เกาะติดใช้ความตั้งใจจริงทุ่มเทกำกับดูแลแบบกัดไม่ปล่อย จนช่วยเหลือได้ผลที่น่าพอใจมากกว่าอดีต อันดับที่ 2 ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 36.4 เพราะแก้ปัญหาแบบครบเครื่องทั้งเรื่องเกษตรและพาณิชย์ การตลาดนำการผลิต อันดับที่ 3 ได้แก่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร้อยละ 19.3 เพราะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญออกมาตรการเยียวยาความทุกข์ยากของประชาชนช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่พูดมากและทำงานทุ่มเท
สำหรับบุคคลแห่งปีที่เป็นหลักดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมและความมั่นคงของประเทศ พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 พลเอกประวิตร ร้อยละ 40.3 เพราะทำงานรักษาความมั่นคงของประเทศในทุกมิติ ที่สะสมมาจากประสบการณ์อันยาวนานและบารมีในเหล่าทัพ อันดับที่ 2 ได้แก่ พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร้อยละ 27.3 เพราะเป็นผู้นำทางทหารในการต่อสู่กับความยากจนและต่อสู้กับความเดือดร้อนของประชาชน ความขัดแย้งของประชาชนไม่ใช่ศัตรูทหาร และอันดับที่ 3 ได้แก่ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร้อยละ 26.0 เพราะบทบาทสำคัญในการควบคุมสถานการณ์ความไม่มั่นคงของประเทศการชุมนุมของกลุ่มผู้มีความขัดแย้งทางความคิดและความรุนแรงที่ถูกดำเนินการให้อยู่ภายใต้กระบวนการยุติธรรม
ที่น่าสนใจคือ บุคคลแห่งปี ที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้มีบารมีทางการเมือง พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ร้อยละ 48.7 เพราะเป็นผู้อาวุโส พี่ใหญ่ทางการเมืองมืออาชีพ เป็นนักกฎหมายที่มีความลุ่มลึกและแม่นระเบียบจึงคุมเกมส์ในสภาได้อย่างละมุนละม่อม อันดับที่ 2 ได้แก่ พลเอกประวิตร ร้อยละ 32.6 เพราะเป็นผู้มี connection หลายระดับ โดยเฉพาะในกองทัพทุกรุ่น การเมืองทุกมุ้ง จึงไม่แปลกที่ทุกคนยอมรับว่าพลเอกประวิตร เป็นผู้มีบารมีทางการเมือง อาจพูดได้ว่า “ประวิตรมา ปัญหาหมด” และอันดับที่ 3 ได้แก่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 17.9 เพราะภาพจำ มือปราบตงฉิน วีรบุรุษนาแก
นอกจากนี้ยังมีบุคคลแห่งปี เจ้าสัว นักธุรกิจ ที่ช่วยเหลือสังคม พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ร้อยละ 50.6 เพราะออกมาช่วยเหลือประชาชนช่วงวิกฤตโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจในหลายมิติ อันดับที่ 2 ได้แก่ นายบัณฑูร ล่ำซำ ร้อยละ 24.6 เพราะเป็นนายทุนนายธนาคารที่ช่วยฟื้นฟูสภาพป่า รักษาทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดี และอันดับที่ 3 ได้แก่ นาย เจริญ สิริวัฒนภักดี ร้อยละ 22.2 ผู้นำทางธุรกิจที่สนับสนุนการช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่าง ๆ