วันที่ 9 มีนาคม -นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีบางคนไล่ผู้ชุมนุมว่า ถ้าอยู่ในประเทศนี้แล้วมันอึดอัดใจมากก็ให้หนีไปอยู่ประเทศอื่น ว่า ตนไม่เห็นด้วยที่ใครจะไปไล่ผู้ชุมนุมให้ไปอยู่ประเทศอื่น เพราะทุกคนเป็นคนไทย แต่เมื่อเป็นคนไทยอยู่ในแผ่นดินไทยก็ต้องเคารพกฎหมาย บ้านเมือง ยอมรับกระบวนการยุติธรรม และยึดมั่นในความเป็นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่สำคัญเมื่อทำผิดกฎหมายอย่าใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ไม่เช่นนั้นก็เกิดความไม่สงบไม่จบสิ้น
นายราเมศ กล่าวอีกว่า เมื่อถูกดำเนินคดีอันเนื่องมาจากการกระทำผิด ผู้ชุมนุมก็ไม่ควรเบี่ยงประเด็นว่าถูกใส่ร้ายถูกรังแก อยากให้ดูที่การกระทำของตนเองมากกว่า ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือมุ่งทำลายความน่าเชื่อถือสถาบันตุลาการ ทำไมไม่คิดบ้างว่าหากมีวิถีชีวิตปกติไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่จาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบัน ไม่มีใครสามารถดำเนินคดีได้ การไปจุดไฟเผาหน้าเรือนจำ ไปจุดไฟเผา ไปด่าโจมตีหน้าศาลวันนึงก็จะถูกดำเนินคดีอีก
นายราเมศกล่าวถึงกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า การนำมาตรา 112 มาใช้ไม่สามารถปิดปากได้ยิ่งทำให้บานปลาย ว่า ต้องบอกอาจารย์ปิยบุตรว่า อย่าเป็นอีแอบหลังม็อบออกมานำหน้าน้องๆ เลย เป็นอาจารย์สอนกฎหมายก็ควรสอนในสิ่งที่ถูกต้อง ความคิดบิดเบี้ยวไปหมด โดยเฉพาะตอนนี้ควรให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย อย่าไปยุผู้ชุมนุม