วันนี้ ( 26 ธันวาคม 2564 ) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในช่วงใกล้ที่จะถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 ซึ่งพบว่าประชาชนที่ไปทำงานยังต่างจังหวัด โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ที่เป็นหนุ่มสาวโรงงาน ต่างเริ่มทยอยเดินทางกลับมาบ้านเกิดเพื่อรอฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัวกันแล้ว หลังบริษัทและโรงงานหลายแห่งเริ่มหยุดงาน โดยหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.64-2 ม.ค.65 รวมระยะเวลาหยุดยาวถึง 9 วัน ทำให้ต่างถือโอกาสพาครอบครัวเดินทางมาเลือกซื้อสินค้าภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอมแห่งนี้อย่างคึกคักดังกล่าว ส่งผลให้เศรษฐกิจชายแดนเริ่มกระเตื้องขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ซบเซามานาน จากผลกระทบของการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางมาตรการคัดกรองประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าออกภายในตลาดย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลต่างๆของทุกปี ที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมแห่งนี้ จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในการใช้จ่ายซื้อสินค้า แต่พบว่าในทุกเทศกาลเงินในตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน ที่มีเพียงตู้เดียวตั้งอยู่หน้าตลาดการค้าชายแดนช่องจอม มีเงินไม่เพียงพอที่จะให้ประชาชนได้กดเงินไปใช้จ่าย ส่งผลให้เกิดความยากลำบากของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะต้องออกไปตระเวนหาตู้เอทีเอ็มที่อยู่ไกลออกไปจากตลาดและก็ยังมีเงินให้กดไม่เพียงพอเช่นกัน ประชาชน นักท่องเที่ยวและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการให้ธนาคารต่างๆเอาตู้เอทีเอ็มมาตั้งไว้บริการประชาชนที่หน้าตลาดการค้าชายแดนช่องจอมให้มีตู้เอทีเอ็มที่มากกว่านี้ด้วย เพื่อให้เกิดความสะดวกกับประชาชนและนักท่องเที่ยว
นางบุญนาค ภูสง่า แม่ค้าขายล็อตเตอรี่หน้าตลาดการค้าชายแดนช่องจอม อายุ 67 ปี กล่าวว่า ตู้เอทีเอ็มมีไม่พอ คนกดเยอะมก เงินหมดตู้บ่อย อยากให้ธนาคารเอาตู้มาลงเยอะๆ ทุกเทศกาลก็จะเป็นแบบนี้ กดตังไม่เคยพอแถมมีตู้เดียว
นายน้อย สง่างาม มอเตอร์ไซค์รับจ้าง อายุ 65 ปี กล่าวว่า อยากให้มีตู้เอทีเอ็มอีกสัก 2 ตู้ ตอนนี้กดกันไม่พอ คนกดเยอะมาก ตนส่งลูกค้าไปกดตู้อื่นที่อยู่หน้าโลตัสและเซเว่นบ่อยๆ เพราะมันไกล อยากให้มีตู้มาไว้บริการนักท่องเที่ยวเยอะโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล.
ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงเจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์