วันที่ 27 ธ.ค.64. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาวิจารณ์ของขวัญปีใหม่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานต่างๆร่วมกันมอบให้ประชาชนว่าเต็มไปด้วยมาตรการหยุมหยิม และเต็มไปด้วยโครงการประชานิยมแจกเงินให้กับประชาชนว่า มาตรการต่างๆที่ออกมานั้นเป็นไปเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจทุกระดับ ที่กระจายและครอบคลุมทุกกลุ่ม ไม่ใช่เรื่องหยุมหยิม แต่เป็นความละเอียดอ่อนและใส่ใจของนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆไปคิดมาตรการตอบโจทย์ให้ตรงความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึงและลงลึก ไม่ใช่แค่ทำแบบหว่านๆหรือฉาบฉวยเพียงเพื่อสร้างภาพ หรือหวังคะแนนเสียงเหมือนกับอดีตนายกฯบางคนที่หนีไปอยู่ต่างประเทศ อีกทั้งมาตรการต่างๆยังตอบสนองตามเสียงที่ประชาชนเรียกร้อง เพราะตรงใจและตรงจุด เช่น ช้อปดีมีคืน เป็นต้น ส่วนโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ซึ่งเป็นที่นิยมของพี่น้องประชาชนรัฐบาลก็ยังเตรียมเอาไว้ด้วยหลังปีใหม่ โดยเว้นช่วงออกเพียง 3 เดือน เพื่อปรับปรุงระบบ ปรับแพลตฟอร์มให้ใช้ง่ายมากขึ้น มีการอัปเดทร้านค้าใหม่เข้าไปบนระบบ ซึ่งหากปรับระบบเสร็จก็คาดว่าจะเริ่มโครงการในวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2565 นี้
ส่วนกรณีที่เพื่อไทยเรียกร้องให้นายกฯลาออกเป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อให้ประชาชนตกปลาได้เองเหมือนเดิม ไม่ใช่เอาแต่แจกปลาหวังประโยชน์คะแนนเสียงนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ก่อนจะคิดประดิษฐ์วาทะกรรมมาดิสเครดิตทางการเมือง พรรคเพื่อไทยไม่ควรตกข่าวหรือทำการบ้านไม่ดี จึงไม่ทราบว่ามีมาตรการที่ส่งเสริมให้ประชาชนหาปลาได้เอง รวมทั้งมีตลาดให้ขายปลาด้วย เช่นมาตรการสร้างอาชีพหลังโควิด เช่น “ช่างชุมชน” “นักประเมินมูลค่าทรัพย์สินมืออาชีพรุ่นใหม่” และ “บ้านเช่าพร้อมอาชีพในโครงการบ้านเคหะสุขประชา” ซึ่งยังมีของขวัญอีกเพียบที่รัฐบาลใส่ใจในการดูแลปากท้องประชาชน ผ่านโครงการใหม่ๆ
“พรรคเพื่อไทย ควรอ่านข้อมูลให้มาก อ่านมติคณะรัฐมนตรีให้แตกฉานละเอียด ปราศจากอคติ และเร่งทำคะแนนเสียงโดยการนำเอาข้อมูลที่เป็นโยชน์ไปแจ้งประชาชน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่กับพี่น้องประชาชนที่เลือกท่านมา ไม่ใช่เอาแต่โจมตีรัฐบาลอย่างเดียว” น.ส.ทิพานัน กล่าว
ไม่แปลกใจที่พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคฝ่ายค้านยังคงเล่นการเมืองแบบเดิม ควรหยุดเล่นการเมืองแบบตีสำนวนโวหาร โดยปราศจากข้อมูลและประโยชน์เพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ทำให้ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เช่น นิด้าโพลล่าสุด ชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ ยังคงอยู่เหนือกว่าหัวหน้าพรรคการเมืองอื่น โดยร้อยละ 16.93 สนับสนุนให้เป็นนายกฯ โดยให้เหตุผลว่า เพราะมีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ บริหารงานดี นโยบายช่วยเหลือประชาชนได้จริง ก็ชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่คิดอย่างไร