เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่รัฐสภา คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงสื่อมวลชนรัฐสภาตั้งฉายาวุฒิสภาปีนี้ “ผู้เฒ่าเฝ้ามรดก คสช.” ว่า ไม่ผิดที่จะคิดเช่นนั้น แต่สำหรับตนคิดว่าตัวเองไม่ใช่เช่นนั้น เพราะไม่ได้เป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่อาจเป็นผู้เฒ่า เมื่อมีโอกาสได้ทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภายืนยันที่จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดทุกครั้ง โดยเฉพาะการผลักดันกระบวนการต่างๆต้องทำให้ดียิ่งขึ้น แม้จะตอบไม่ได้ว่าวุฒิสภาจะทำอะไรให้ดีขึ้นได้บ้าง แต่ส่วนตัวจะพยายามทำทุกวิถีทาง ซึ่งในวิธีการดำเนินงานผ่านกระบวนการกรรมาธิการอาจจะยาก เพราะเป็นไปตามฉายาที่ได้รับ แต่ขออย่าไปเหมาเข่ง
คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายการทำงานในปี 2565 ต้องผลักดันการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพราะต้องการปฏิรูปตำรวจ เช่น คดีคุณหมอตกตึก 11 ปีที่มีการถอดบทเรียนไม่ต่างจากคดี “บอส อยู่วิทยา” โดยตั้งใจที่จะทำให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้นสำหรับการอำนวยการกระบวนการยุติธรรมให้แก่ประชาชนที่ไม่มีเส้นสาย กับอีกกรณีคือเรื่องของการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งมาในแนวเดียวกันว่าผู้ที่มีเงินหรือผู้ที่มีฐานะจะมีโอกาสมากกว่าคนจน ย้ำจะพยายามผลักดันเรื่องนี้แม้จะไม่ได้อยู่ในแผนการปฏิรูป
คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อห่วงใหญ่ต่อสถานการณ์การเมืองปี 2565 ทุกอย่างเป็นไปตามวัฏจักรการเมือง แต่ตอบได้คำเดียวว่าหากตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี หากจะต้องลงเวทีจะต้องทำในสิ่งที่จารึกไว้ว่าได้ทำสิ่งที่ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดได้ทำมาก่อน มากกว่าการทำแล้วทำอะไรไม่ได้ เพราะทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิม ดังนั้นเหลือเวลาไม่มาก จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีกล้าทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชาชน โดยไม่ต้องเกรงกลัวฐานเสียง หรือกลัวว่าจะไม่ได้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และให้นายกรัฐมนตรีถอยมาทบทวนว่าในตอนนี้ได้ทำอะไรให้บ้านเมืองดีขึ้นได้บ้าง และการสัญญากับประชาชนว่าจำเป็นต้องอยู่ต่อเพื่อดำเนินการปฏิรูป แต่ถามว่าขณะนี้มีอะไรบ้างที่เดินหน้าได้ ในสิ่งที่สำคัญมากแต่ไม่ได้เดินเลยเช่น การปฏิรูปตำรวจ ถือเป็นเสี้ยวหนึ่งของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม