วันที่ 27 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่ามีคนร้ายขโมยรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ค แคป สีเทา ทะเบียน บพ-1231 บุรีรัมย์ ไปกลางดึก กล้องวงจรปิดเห็นเพียงมีคนขับออกไป แต่ไม่เห็นตัวคนร้าย วันถัดมาโทรศัพท์มาเรียกค่าไถ่รถดื้อๆ
จากการตรวจสอบ พบนายปิยพันธ์ พิมพ์แก้ว อายุ 33 ปี และณัฐริกา สีขาว อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา อยู่เลขที่ 85 หมู่ 9 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งหน้าบ้านเปิดเป็นร้านท่อไอเสีย โดยได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบเหตุเกิดเวลา 04.00 น.ของวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไม่เห็นตัวคนร้าย เห็นเพียงรถขับออกมา มุ่งหน้าไปทางแยกหนองม่วง ต.ชุมเห็ด
นางณัฐริกา เล่าว่า ปกติจะจอดรถไว้หน้าบ้านทุกวัน วันเกิดเหตุก็จอดไว้ตามปกติ พอรุ่งเช้ามาพบว่ารถได้หายไป กระทั่งไปดูกล้องวงจรปิด จึงรู้ว่ามีคนขโมยไป จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมือง บุรีรัมย์ และในตอนเที่ยงของวันเดียวกัน ก็ได้มีคนโทรศัพท์เข้ามาหาสามีว่า ถ้าต้องการเอารถคืนต้องเอาเงินมาไถ่ จำนวน 35,000 บาท โดยอ้างว่ามีคนขโมยมาแล้วเอามาจำนำ จากนั้นตนเอง ได้ประสานทางโทรศัพท์กับชายที่โทรมา
โดยชายสายปลายทาง บอกว่า ให้นัดเจอกันที่ห้างบิ๊กซี แต่ต้องโอนเงินมาก่อนเท่านั้น ติดต่อกันหลายครั้งสุดท้ายจึงแกล้งว่าจะโอนเงินไป โดยชายคนนั้นได้บอกเลขบัญชีธนาคารมาให้ แต่ตนไม่มั่นใจว่าจะได้รถคืน เลยไม่กล้าโอน จากนั้นชายคนดังกล่าวบอกว่าตนเองตุกติก ขู่ว่าจะส่งรถไปทันที
นางณัฐริกา บอกด้วยว่า ตอนนี้ตนอยากได้รถคืน มาใช้งาน เพราะรถยังส่งงวดอยู่และอยากให้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะจากหลักฐานมีทั้งเลขบัญชีธนาคารและชื่อเจ้าของบัญชี.
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์