วันที่ 29 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟชบุ๊ก ว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ เทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการตั้งความหวังในสิ่งดี ๆ ตลอดปีและตลอดไป แม้ว่าชาวไทยและชาวโลกจะประสบกับการแพร่ระบาดโควิดมาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปีแล้ว แต่ไทยเราก็ร่วมแรงร่วมใจ ฝ่าฟันช่วงเวลาอันยากลำบากนั้น มาจนเราสามารถเปิดประเทศ เปิดกิจการ และต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกครั้ง ซึ่งมาจากความอดทน ทุ่มเท เสียสละของทุกคน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า รวมถึงประชาชนทุกคน ที่ให้ความร่วมมือกับมาตรการของรัฐ ทุกวันนี้ผมดีใจที่ยังเห็นประชาชนส่วนใหญ่ ใส่หน้ากากอนามัยกันในสถานที่ต่าง ๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายบังคับเหมือนบางประเทศ หน้ากากอนามัยกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่คนไทยไม่ลืมที่จะใส่เมื่อออกจากบ้าน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้เราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้สำเร็จ ผมต้องขอขอบคุณทุก ๆ ท่านมา ณ ที่นี้
แม้ว่าเราจะสู้ด้วยกันมาจนสามารถควบคุมยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตได้ แต่เจ้าโควิดตัวร้ายยังไม่ยอมให้เราปิดเกมได้ง่าย ๆ กลับกลายพันธุ์ไปเป็น “โอมิครอน” ที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดายยิ่งกว่าเดิม และสามารถติดได้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว แต่สิ่งที่ยังเบาใจได้บ้างก็คือ ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนที่ฉีดวัคซีนแล้ว จะไม่มีอาการรุนแรง และส่วนใหญ่ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล โดยมีรายงานจากต่างประเทศว่าผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน อาจมีอาการรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ ดังนั้นถึงแม้ท่านจะฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็ยังจำเป็นต้องระมัดระวังไม่ให้แพร่เชื้อต่อผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว
ดังนั้นในช่วงเวลาวันหยุดในเทศกาลปีใหม่นี้ ผมจึงยังขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทย ยังคงไม่ประมาท นั่นคือการใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง และตลอดเวลาเมื่อต้องพบปะกับผู้อื่น หรือขณะกำลังเดินทาง รวมทั้งหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความแออัด โดยเฉพาะในอาคารที่อากาศถ่ายเทได้ไม่ดี และหากยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือถึงเวลาฉีดเข็มกระตุ้นแล้ว ให้รีบไปฉีดวัคซีนในสถานที่ต่าง ๆ ที่รัฐจัดเตรียมให้ เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ผ่านไปให้ได้ ไม่ให้เกิดภาวะผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล และหลังกลับจากการเดินทางจากต่างจังหวัดหรือไปงานสังสรรค์ ขอให้ท่านคอยสังเกตอาการตนเอง หรือทำการตรวจโรคด้วยตนเองหากมีอาการที่น่าสงสัย และหากสามารถทำได้ ขอให้ท่าน Work from Home ในช่วงแรกก่อนที่จะกลับเข้าที่ทำงาน และใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
ผมในฐานะผู้นำรัฐบาลและ ศบค. ขอเรียนว่า ผมให้ความสำคัญกับการควบคุมโรค ที่สมดุลกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชน รัฐบาลได้วางแนวทางเพื่อให้ประเทศไทยฟื้นตัวให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งในปี 2564 ที่กำลังจะผ่านไปนั้น เป็นอีกปีที่ไทยเราต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ แต่เราก็สามารถฝ่าฟันผ่านมาได้ และ ณ วันนี้ เราพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแรง เปิดรับโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ โดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพ APEC ด้วยระบบและรากฐานความพร้อมที่เราได้วางไว้ในปีนี้ ทำให้ผมเชื่อมั่นว่า ปี 2565 ที่กำลังจะเข้ามาถึง จะต้องเป็นปีที่ดีขึ้นกว่าเดิมของประเทศไทยอย่างแน่นอนครับ