วันที่29 ธ.ค. 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ตัวแทนกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เดินทางมาเพื่อนำหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวีดิโอ เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนว่นนี้ หลังจากที่มีหญิงคนหนึ่งพยายามเข้าไปใกล้กับรถพระที่นั่งขบวนเสด็จของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ที่ทรงเสด็จไปทรงวางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พุทธศักราช 2564 ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี ทำให้เจ้าหน้าทีต้องเข้าไปควบคุมตัวหญิงคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ และอีกเหตุการณ์คือกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่น 3-4 ราย ยืนตะโกนถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมที่บริเวณริมถนนขบวนเสด็จ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาควบคุมตัวออกไป
โดยนายอานนท์ ตัวแทนกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน กล่าวว่า กลุ่มศปปส. ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด คือหญิงที่ก่อเหตุพยายามเข้าใกล้รถพระที่นั่ง จากหลักฐานภาพถ่ายพบว่า หญิงคนดังกล่าวติดสติ๊กเกอร์ผู้ที่ต้องคดี เหมือนกับของตนเอง จึงตั้งข้อสงสัยว่าหญิงคนดังกล่าวหากมีการต้องคดีจริง ทำไมถึงสามารถเข้ามาร่วมรับขบวนเสด็จได้ แล้วตอนนี้มีการดำเนินคดีกับหญิงคนนี้หรือยัง
อีกทั้งตนเองต้องการติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2563 ที่กลุ่ม 3 นิ้ว พยายามขัดขวางขบวนเสด็จ ว่าจนถึงตอนนี้มีความคืบหน้าอย่างไร ได้มีการดำเนินคดี ฟ้องร้อง ผู้ก่อเหตุไปแล้วหรือยังเพราะทาง ศปปส.เองก็ได้มีการยื่นหนังสือ เอกสารหลักฐานมาให้ตรวจสอบหลายครั้งแล้ววันนี้กลุ่มศปปส.จุงต้องการให้เข้าหน้าที่ตำรวจออกมาชี้แจงทุกๆข้อสงสัย
ส่วนกรณีที่กลุ่ม 3 นิ้วไปยืนตะโกนให้มีการยกเลิกมาตรา 112 แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บุปผาราม นำตัวไปดำเนินตดีและเสียค่าปรับเพียง 1000 บาท แล้วปล่อยตัวกลับบ้าน ทั้งที่การกระทำแบบนั้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะการปฏิรูปสถาบันเท่ากับการล้มล้างสถาบัน กลุ่มศปปส.และประชาชนจึงเกิดความกังวลใจว่า จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ตนเองถึงอยากให้ตำรวจช่วยจัดการกับคนเหล่านี้ให้เด็ดขาด เพราะไม่มีประชาชนคนไหนต้องการให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก จึงขอให้ตำรวจเร่งแก้ไข เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย
จากนั้นนายอานนท์ได้นำหลักฐานมอบให้กับพ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.ฝอ.7 บก.อก.บช.น. นำไปตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด โดยพ.ต.อ.จักรกริศน์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาลรวมทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและหน่วยงานต่างๆ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งทุกคดีนั้นจะต้องมาการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อที่จะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานมาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามขั้นตอนกฎหมาย เช่นเดียวกับกรณีที่ ทางศปปส.ได้นำหลักฐานมาให้ตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีหารรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบต่อไป