วันนี้ (29 ธ.ค.) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวประจำวันนี้ว่า ตัวเลขรวมทั่วโลก ยอดพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ เอเชียใกล้บ้านเรา มาเลเซีย เวียดนาด ก็มีตัวเลขสูงขึ้น
ขณะที่ประเทศไทยติดเชื้อรายใหม่ 2,575 ราย อยู่ที่โรงพยาบาล 33,502 อาการหนัก 614 อาการหนัก 153 และมีผู้เสียชีวิต 17 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งหมดพบว่าเป็นผู้สูงอายุ 16 ราย และมีโรคเรื้อรัง 1 ราย ดังนั้นแล้วที่ประชุม ศปก.ศบค. เน้นย้ำให้ใช้ความพยายามสูงสุดให้นำวัคซีนไปถึง 608 นี้ให้ได้มากที่สุด
ส่วน 10 จังหวัดที่มียอดสูงสุด ประกอบด้วย 1 กทม.358 ราย 2.ชลบุรี 191 ราย ,3.สมุทรปราการ 84 ราย ,4.อุบลราชธานี 73 ราย , 5. ขอนแก่น 68 ราย ,6. กาฬสินธุ์ 65 ราย 7.นครศรีธรรมราช 63 ราย ,8.สงขลา 62 ราย , 9.นครราชสีมา 57 ราย ,10.เชียงใหม่ 56 ราย
“ตรงนี้ต้องช่วยกัน ต้องฝาก อสม. ลูกหลานที่กลับภูมิลำเนาจำเป็นต้องได้รับการตรวจ อย่างน้อย ATK หรือกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อรอดูอาการ นอกจากนี้ ในการประชุม ศปก.ศบค.ได้พูดถึงคลัสเตอร์ต่างๆ ที่พบ อาทิ คลัสเตอร์โรงงาน สถานประกอบการ พบที่ จ.ชลบุรี เพชรบุรี และขอนแก่น คลัสเตอร์ตลาดพบที่ จ.ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ มุกดาหาร เชียงใหม่ สมุทรสาคร และยโสธร คลัสเตอร์แคมป์คนงานพบที่จ.อุบลราชธานี คลัสเตอร์ค่ายทหาร ชุมชนพบที่ จ.เพชรบูรณ์ คลัสเตอร์ร้านอาหาร สถานบันเทิง พบที่ จ.อุบลราชธานี ลำปาง เชียงใหม่ และฉะเชิงเทรา” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
และยังกล่าวเพิ่มอีกว่า อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รายงานในที่ประชุมว่า พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนสะสม 739 ราย เฉพาะวันที่ 29 ธ.ค. 149 ราย มีการกระจายไปทั่วประเทศ โดยที่ กทม. สะสม 273 ราย กาฬสินธุ์ วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 98 ราย ทำให้มียอดสะสม 226 ราย โดยเป็นการสุ่มตรวจหาสายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์เดลต้า ยังเป็นสายพันธุ์ส่วนใหญ่ที่แพร่ระบาดในประเทศ 90.94% ส่วนโอมิครอนอยู่ที่ 9% ซึ่งแนวโน้มคงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเฝ้าระวัง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการเฝ้าระวังบุคคลที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศทางอากาศ ช่วงเดือน พ.ย. เข้ามา 1.3 แสนราย เดือน ธ.ค. 2.6 แสนราย ซึ่งมาทางเทสแอนด์โกมากที่สุด โดยในช่วงการตรวจหาเชื้อเดือน ธ.ค. พบว่ากราฟพุ่งขึ้นจากประมาณ 30 รายในช่วงก่อนคริสมาสต์ แต่ขณะนี้กราฟชันขึ้นมาถึง 87 ราย ฉะนั้น ขอเตือนไปถึงผู้ประกอบการ สถานประกอบการ ประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยกันดู นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้แบ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อในวันที่ 29 ธ.ค. พบว่า มาจากจากช่องทางเทสแอนด์โก 87 ราย แซนด์บ็อกซ์ 21 ราย คอรันทีน 7 ราย ลักลอบช่องทางธรรมชาติ 1 ราย
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันโดยนำชนิดของช่องทางการเดินทางเพื่อมาศึกษาเพื่อวางแผนกัน และยังพบว่า วันที่พบเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในวันที่ 0-3 คิดเป็น 86.21% ตรงนี้หากเราตรวจดีๆ ในช่วงวันที่ 4-7 จะเพิ่มขึ้นมาอีก 9.48% และมากกว่า 7 วันไปแล้ว 4.31% และขณะนี้เราได้มีการปรับแผนการตรวจหาเชื้อของผู้ที่มาทางเทสแอนด์โกแล้ว เป็น 2 ช่วงคือ วันที่ 0-3 และวันที่ 5-6
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค.ยังมีการหารือกันเรื่องวัคซีน อยากเน้นย้ำไปยังคนในกลุ่มคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะขณะนี้ได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่งเพียง 75.1% เท่านั้น กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับวัคซีนตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต โดยจังหวัดที่กลุ่มผู้สูงอายุที่ยังได้วัคซีนไม่ถึง 50% ได้แก่ ปัตตานี นครนายก ราชบุรี กาญจนบุรี และมีถึง 28 จังหวัดที่กลุ่มผู้สูงอายุได้รับวัคซีนได้รับวัคซีนเพียง 60-69% ได้แก่ นนทบุรี นครปฐม ยะลา นราธิวาส แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก ตาก สุโขทัย อุทัยธานี นครสวรรค์ พิจิตร พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ปราจีนบุรี สระแก้ว กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น ยโสธร อำนาจเจริญ พัทลุง สตูล สระบุรี ตราด ถือว่ามีการฉีดน้อยมาก จึงเน้นย้ำให้ไปฉีดวัคซีน วัคซีนช่วยได้ ทำให้ความรุนแรงน้อยลง และเสียชีวิตลดน้อยลง