จากกรณีที่พระมหาสมปอง ประกาศลาสิกขา เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบวชมานานกว่า 30 ปี ภายหลังสึกใช้ชื่อเดิม นายสมปอง นครไธสง
ล่าสุดวันที่ 30 ธ.ค. 64 อดีตพระมหาสมปอง เปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ท่ามกลางความสงสัย ถึงเหตุผลการตัดสินใจสึก โดยเปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษสื่อ ที่เมื่อวานนี้ 29 ธ.ค. 64 วันที่สึก ไม่ได้ตั้งใจจะสับขาหลอก ตอนแรกจะไปสึกที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร แต่นักข่าวไปรอเยอะ จึงจะไปสึกที่วัดสร้อยทอง แต่นักข่าวก็รอกันเยอะอีก เลยตัดสินใจไปสึกที่วัดบางโพโอมาวาส เพราะใกล้ถึงฤกษ์สึกแล้ว
หลังจากสึกออกมาจะมีผลิตภัณฑ์อีกหลายอย่าง ในเครือ “แม่ปอง” ตอนนี้ทำไปแล้ว 30 ผลิตภัณฑ์ ทุกบาททุกสตางค์ ไม่ใช่เงินของตน มีผู้ใหญ่ใจดีออกให้ก่อน และจะมีธุรกิจค่ายเพลงด้วย ซึ่งผมสึกออกมาก็ต้องหาเงิน ส่วนเรื่องหนี้ 10 ล้าน ตอนนี้ยังเหลือ 10 ล้านเหมือนเดิม ซึ่งเจ้าสัวที่เคารพน่าจะเคลียร์ให้ ซึ่งหนี้เกิดจากตอนที่บวช นำเงินไปสร้างโรงเรียน สร้างห้องน้ำ สร้าง สนามกีฬา ให้เด็กๆ
พร้อมกล่าวอีกว่า ตอนแรกที่บอกว่า หลังสึกจะลงเล่นการเมือง ตอนนี้ไม่ทำแล้ว เพราะว่าลูกเพจไม่แฮปปี้ แต่ถ้าวันหนึ่ง ลูกเพจอยากให้ผมเล่นการเมือง ผมจะตั้งชื่อพรรค ว่า “พรรคชาติหน้าพัฒนา” ถ้าคุณเต้ ส.ส.พระราม 7 เป็นได้ ทำไมผมจะเป็นไม่ได้ อันนี้ผมพูดเล่นนะ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังสึกออกมาแล้ว วงการพระสงฆ์ควรปฏิรูปอย่างไร อดีตพระมหาสมปอง ได้ตอบกลับว่า ควรทำให้เป็นธรรม ถ้ายังปกครองเหมือนเดิม มันก็คงจะแย่กว่าเดิม ส่วนเรื่องความรัก ตั้งใจไว้ว่าภายใน 2 ปีนี้ ขอโฟกัสเรื่องงานก่อน ยังไม่ขอมีแฟน แต่ยืนยันว่าผมเป็นชายแท้