“ผู้พิพากษา” เมากร่าง ย่องพบตำรวจเคลียร์คู่กรณี หลังชนแล้วหนี!

"ผู้พิพากษา" เมากร่าง ย่องพบตำรวจเคลียร์คู่กรณี หลังชนแล้วหนี!

จากกรณีเรื่องอื้อฉาวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม เมื่อชายสูงอายุคนหนึ่งมีอาการคล้ายเมาสุรา วิ่งย้อนศรขับรถไปชนตุ๊กๆ จนคนขับเจ็บ ต่อมากู้ภัยเข้าไปช่วยสกัด แต่กลับขับรถหลบหนีไปเฉี่ยวชนรถอาสากู้ภัย ก่อนจะปาดหน้าสิ้นฤทธิ์ และลั่นกร่างกลางถนน ว่าตนเองมีตำแหน่งเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 5 กระทั่งมีการแชร์คลิปว่อนเน็ต กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจติดตามของคนทั้งประเทศ

ล่าสุดวันนี้ (31ธันวาคม 64) 14.00น. ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ร.ต.อ.อมรเทพ ชุมวิสูตร ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพบกับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง โดยมีทั้งนายไพโรจน์ พรหมธารา อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสมาคมร่วมล้านนา และเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ ศูนย์กู้ชีพเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เจ้าของรถซูซูกิสวิฟท์ สีขาว ทะเบียน งว 2905 เชียงใหม่ ผู้เสียหาย เดินทางมาถึงก่อน และนายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ อายุ 59 ปี เจ้าของรถอีซูซุมิวเซเว่น สีบอรนซ์ ทะเบียน 9 กค 2596 กทม. ที่อ้างเป็นคนมีตำแหน่งใหญ่โต เดินทางเข้าบริเวณประตูด้านหลังโรงพักหลบหน้าผู้สื่อข่าว ขึ้นไปยังห้องพนักงานสอบสวนชั้น 2 พร้อมกับหญิงคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นภรรยาที่มาส่ง โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบสวนเพิ่มเติมและให้ตกลงกันทางคดีเฉี่ยวชน โดยใช้เวลานานเกินกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่ทาง ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ แจ้งว่าจะให้ข่าวกับสื่อมวลชนพร้อมกับคู่กรณีบริเวณด้านหน้า สภ. แต่เมื่อถึงเวลานายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ กลับหลบหน้าผู้สื่อข่าวอีกครั้ง และปล่อยให้นายไพโรจน์ พรหมธารา มาแถลงพร้อมกับ ผกก.สภ.เมือง แทน

พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามรายละเอียดขอทางคดีนั้น อาสากู้ภัยมีความตั้งใจในการปฎิบัติงาน แม้ทางคู่กรณีที่ขับรถชนตุ๊กๆ จะตะโกนบอกในที่เกิดเหตุแล้วว่าไปเจอที่โรงพัก เมื่อขับขี่ออกมาจากที่เกิดเหตุเนื่องจากเป็นสี่แยก อาจมีความเข้าใจผิดกันจนกู้ภัยขับรถไล่ติดตามจนรถเบียดกันมีความเสียหาย กระทั่งมีการอัดคลิปแชร์ทางโลกออนไลน์ ซึ่งทางฝ่ายคู่กรณีเข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยที่ตั้งใจทำงาน เบื้องต้นได้ตกลงจ่ายค่าซ่อมรถและค่าเสียเวลา เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท และไม่ติดใจเอาความแล้ว ส่วนตุ๊กๆที่เจ็บเล็กน้อย ได้ชดใช้ค่าเสียหายไปตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว

ผกก.สภ.เมือง เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ในคลิปคู่กรณีที่อ้างตัวนั้นมีลักษณะมึนเมา เบื้องต้นเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้มึนเมา เพราะลักษณะการพูดจาส่วนตัวเป็นลักษณะแบบนั้น และเนื่องด้วยเป็นเหตุทรัพย์สินเสียหายไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในเรื่องความผิดสามารถว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ส่วนกรณีที่ไม่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายตั้งแต่วันเกิดเหตุนั้น จะได้สอบสวนเพิ่มเติมหาข้อเท็จจริงต่อไป โดยขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น