เมื่อเวลา 12.47 น. วันที่ 2 มกราคม 2565 พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พร้อม ร.ต.ท.วัชรินทร์ แก้วเสน่ห์ใน ร้อยเวร สภ.แหลมงอบ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พยผู้เสียชีวิตในรถยนต์ ภายในหมู่บ้านแหลมทองหลาง อ.แหลมงอบ จ.ตราด หลังได้รับแจ้งจากนายวิศรุต มาลารัตน์ ผู้ใหญ่บ้านแหลมทองหลาง ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนพูดคุยแสดงความเห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพบรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค หมายเลขทะเบียน กต 2748 นครปฐม ของนายปัญญา ชัยเชียงเอม อายุ 44 ปี จอดอยู่ริมถนน ส่วนศพผู้เสียชีวิตชื่อเด็กชายสายฟ้า ถนอมวงษ์ อายุ 6 ปี ถูกนำออกไปไว้ที่บ้านแล้ว และเมื่อ ร.ต.ท.วัชรินทร์ แก้วเสน่ห์ใน ร้อยเวร สภ.แหลมงอบ เข้าไปสอบปากคำนายปัญญา ชัยเชียงเอม พ่อเลี้ยง และนางสาวนรินทร์รัตน์ ถนอมวงษ์ แม่ของเด็กชายสายฟ้า แต่ผู้เป็นแม่ไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ อ้างว่า จะขออยู่กับลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และถูกชาวบ้านใส่ร้าย
ระหว่างนั้น พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้สอบปากคำเบื้องต้นกับญาติ(มะ)ของเด็กชายถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่กลับบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ทำให้ ชาวบ้านที่ได้ยินต่างไม่พอใจและบอกว่าไม่เกี่ยวกับไสยศาสตร์ ก่อนที่ญาติ(มะ) จะไม่พอใจเช่นกัน จึงต่อว่ากลับไปหวิดบานปลาย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องห้ามไว้
จากนั้น พ.ต.อ.สมชาย ได้อธิบายถึงขบวนการการสอบสวนคดี เนื่องจากสาเหตุการตายนั้นผิดธรรมชาติ มีเลือดออกจากจมูก ซึ่งตอนนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่ต้องหาพยานหลักฐานทั้งหมดในเรื่องนี้ และมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต
เมื่ออธิบายขั้นตอนการทำงานของตำรวจแล้ว พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ พร้อมกับร้อยเวรเดินเข้าไปพบนางสาวนรินทร์รัตน์ ถนอมวงษ์ เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่นางสาวนรินทร์รัตน์ ยังคงไม่ให้ความร่วมมือ บอกว่าอยากให้ทุกอย่างมันจบ แต่ พ.ต.อ.สมชาย ตอบกลับไปว่า คดีนี้ยังไม่จบ ต้องส่งศพไปพิสูจน์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต เพราะการเสียชีวิตเป็นที่น่าสงสัย แต่การพิสูจน์ศพอยู่จะไม่ละเมิดกฎของศาสนาอิสลาม
ส่วนนายปัญญา ชัยเชียงเอม ให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า ตนเองเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กชายสายฟ้า ซึ่งเด็กชายสายฟ้า ได้กลับมาอยู่กับแม่ที่บ้านหลังนี้เมื่อ 2 ปี ก่อน และเมื่อมาอยู่อาศัยได้ไม่นานเด็กชายสายฟ้า บ่นว่าปวดหลังปวดตัว นอนที่บ้านไม่ได้ ทำให้ตนเองต้องย้ายเด็กชายสายฟ้าไปนอนในรถเกือบทุกคืน โดยตนเองไปนอนด้วย ต่อสายไฟใช้พัดลมเป่าให้ด้วย ซึ่งเป็นแบบนี้เกือบทุกวัน
และเมื่อวานนี้ ช่วงเวลา 21.00 น. ตนเองกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน เด็กชายสายฟ้า บอกว่าง่วงนอนจะเข้าไปนอนในรถ ตนเองก็ไม่ได้ว่าอะไร และตอนเที่ยงคืน เด็กชายสายฟ้า บอกว่าอยากปู ตนเองจึงออกไปตักปูให้ ก่อนที่กลับเข้าบ้านมาตอนเช้าวันนี้ จึงเข้าไปดูเด็กชายสายฟ้าในรถ ก็พบว่าเด็กชายสายฟ้า เสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจจึงอุ้มเด็กชายสายฟ้า มาไว้ในบ้าน
นายปัญญา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองไม่ได้ทำร้ายร่างกายเด็กชายสายฟ้าแต่อย่างใด แต่กลับถูกชายบ้านใส่ร้ายกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย ทำไมตอนเด็กยังมีชีวิตอยู่ทำไมไม่ถามเด็ก ว่าทำร้ายหรือหรือไม่ แต่ได้พูดคุยกับเด็กชายสายฟ้า เรื่องการทำโทษด้วยการตี แต่การตีทุกครั้งก็มีเหตุผล และตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก็ตีเด็กชายสายฟ้า แค่ 2 ครั้งเท่านั้น พร้อมสอนให้เด็กชายสายฟ้าเข้มแข็ง ไม่ให้ถูกใครรังแก ส่วนการนอนหลับเด็กชายสายฟ้าชอบนอนละเมอ เมื่อละเมอก็ชอบกระโดดอยู่บ่อยครั้ง
ด้านนางสาวหรินทร์ นาคชูวงษ์ ชาวบ้านในหมู่บ้านแหลมทองหลาง กล่าวว่า เด็กชายสายฟ้า มาอยู่กับพ่อเลี้ยงและแม่มาหลายปีแล้ว ช่วงแรก ๆ ร่างกายไม่มีปัญหาอะไร นอนอยู่ในบ้านตามปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป น้องเริ่มมานอนในรถ โดยอ้างว่าน้องนอนบนบ้านไม่ได้ เพราะปากเบี้ยว และน้องก็นอนในรถแบบนี้เป็นปี ๆ และบังคับให้น้องนอนในรถทุกคืน ห้ามออกจากรถหลัง 9 โมง เพราะเชื่อในไสยศาสตร์ตามความเชื่อของแม่น้อง และน้องเริ่มขาเป๋ แขนเบี้ยว หัวบูด หน้าจะเขียว และมีแผลตลอด เพราะไม่รู้ว่าน้องถูกตีหรือถูกทำร้ายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เวลา 13.30 น. ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด นำศพไปยังโรงพยาบาลแหลมงอบ เพื่อชันสูตรศพหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค TOPNEWS จ.ตราด