วันที่ 5 ม.ค. 64 นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า แมงโม้โทนี่ เมื่อคืน ”แมงโม้” บินว่อนทั่วอาณาจักรแคร์ (เบบี้) พี่โทนี่เพ้อฝันอยากกลับเมืองไทยอีกครั้ง 1.มาเลี้ยงหลาน 2.มาให้คำปรึกษารัฐบาล 3.มาบรรยายมีค่าโอเลี้ยง 4.มาเป็นผู้นำ startup ทางธุรกิจ ปีนี้จะกลับบ้านเป็นของขวัญคนไทยให้ได้ ก่อนกลับจะกระซิบลูกรักว่าเมื่อไหร่ดีหนอ ยุทธวิธีแมงโม้นี้กระทำอยู่บ่อยๆ ในรอบปีนี้ พูดแล้วพูดอีกมีแต่เสียงตามสาย มาเขย่าขวัญความรู้สึกผู้คนให้วุ่นวาย อันที่จริงแล้วคนไทยส่วนหนึ่งเขามองว่าเป็นเรื่องตลก
นายเทพมนตรีกล่าวอีกว่า ตนเริ่มชักสงสัยแล้วว่าที่เขากล่าวขวัญว่า พี่โทนี่แกเก่งเรื่องธุรกิจ เศรษฐกิจนี่ มันจริงหรือไม่กันแน่ มันมีผู้เชี่ยวชาญทำวิจัยถึงการทำธุรกิจในต่างประเทศของคุณโทนี่ว่ามีความสำเร็จหรือความล้มเหลวอย่างไรบ้างหรือไม่ คนไทยเราไม่เคยรับรู้เรื่องนี้เลย ตนมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งเท่าที่รับทราบมา ตอนคุณโทนี่เป็นนักธุรกิจและนักการเมืองไทย เขามีอาชีพเป็นเซลล์แมน นายหน้าธุรกิจ และรับสัมปทานภาครัฐ ร่ำรวยมหาศาล เขากลายเป็นนักธุรกิจทางการเมือง มีข้าราชการ และเครื่องข่ายนักธุรกิจของเขาขับเคลื่อนประเทศอยู่เบื้องหลัง โดยสร้างภาพความเป็นนักการเมืองเสรีประชาธิปไตยเบื้องหน้า ในที่สุด วันเวลาผ่านไปไม่นานประชาชนก็จับได้ว่าเขาเป็นเพียงนักธุรกิจการเมือง เผด็จการรัฐสภา กวาดซื้อนักการเมืองขี้ข้าเข้าคอกกลายเป็นทาสรับใช้ของเขา
นายเทพมนตรีกล่าวอีกว่า เมื่อเขาหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ มีสถานภาพเป็นนักโทษคดีอาญา ไม่ใช่คดีการเมือง เพราะเป็นการทุจริตคอรัปชั่น ศาลตัดสินให้เขาจับคุก ดังนั้นการพูดของเขาเมื่อคืนนี้ ในทางประวัติศาสตร์แล้วมันคือการแสดงอาการโหยหาอำนาจ อาลัยอาวรณ์ที่เขาเคยเป็นคนสำคัญ สิ่งที่เขาต้องการยังคงเป็นเรื่องการยุยงปลุกปั่นป่วนประเทศไทย สังเกตไหมเมื่อเขาพูดจบ คนก็ออกมาตั้งคำถามอีกว่าเขาจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่ กลับมาแล้วต้องรับโทษหรือไม่ หรือกลับมาได้อย่างไรวิธีใด เมื่อเราตั้งสติคิดวิเคราะห์พิจารณาแล้วมันจริงหรือ
เพราะถ้าจริงมันต้องกระทบกระเทือน 3 อำนาจของประเทศ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ คือ 1.ต้องออกพระราชกฤษฏีกาอภัยโทษ/นิรโทษกรรมล้าง หรือพระราชบัญญัติมลทินเป็นกรณีโคตรมหาอภิสิทธิ์ คืนเงินที่รัฐได้ยึดมา คืนยศตำแหน่ง คืนเครื่องราชฯ
นายเทพมนตรีกล่าวต่อว่า 2.ต้องหาตำแหน่งเก้าอี้ให้นั่งในที่ชอบๆ เช่น ที่ปรึกษารัฐบาล นายกรัฐมนตรี หรือที่เขาต้องการก่อนหน้านั้นคือตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินฯ 3.ต้องเรียกท่านโทนี่ว่า พันตำรวจโท ดร .. แทนนักโทษหนีคดี สังคมวุานวายโกลาหล 4.ขบวนการยุติธรรมพังพินาศย่อยยับเพราะตัดสินคดีไม่ถูกต้อง ต้องปลดปล่อยนักโทษตั้งแต่ปี 2549 ทุกคดีที่เกี่ยวข้อง ต้องยกเลิกการตัดสิทธิ์ รัฐต้องจ่ายเงินเยียวยา ต้องคืนสถานะพรรคการเมืองที่ถูกยุบ และนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองทั้งหมด 5.พี่โทนี่จะเป็นมหาบุรุษเทียบเท่าคานธี เลยทีเดียวเชียว 6.ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้รับผลกระทบ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่
นายเทพมนตรีกล่าวอีกว่า พี่โทนี่แกสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ แล้วในปัจจุบัน เรามีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องใช้ “คนอย่างเขา” มันลงทุนคุ้มค่าหรือต่อนักโทษหนีคดีที่สร้างมาตรฐานศีลธรรมอันเลวร้ายให้กับการเมืองไทย ที่ผ่านมาพี่โทนี่ไม่ได้มีบุญคุณอะไรกับเรา แต่ประเทศไทยให้พี่โทนี่อย่างมากมาย ที่สำคัญสิ่งที่เขาได้ไปทั้งทรัพย์สินเงินทองมันคือการทุจริตคอรัปชั่นทั้งนั้น คนอย่างพี่โทนี่ไม่ได้มีค่ากับประเทศไทย เป็นตาแก่พร่ำเพ้อรอวันตาย ประวัติศาสตร์คุณงามความดีมิอาจบันทึกสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ไว้ได้เลย ชีวิตของพี่โทนี่ในทางประวัติศาสตร์แล้วก็เป็นเพียงอดีตนายกรัฐมนตรีที่ใช้กลโกงยักยอกงบประมาณแผ่นดินหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ปรากฎการณ์เมื่อคืนก็แค่ แมงโม้บินมาก็บินไป สาวกได้แต่อมตุ่ยยิ้มเยาะถึงสติปัญญาของเขาเท่านั้น 5555555555555555