สธ.เตรียมรับมือ โควิดระบาดระลอก 5 ห่วงบางจังหวัดยังฉีดวัคซีนน้อย

สธ.เตรียมพร้อมยา-เตียง-ความพร้อมสายด่วน รับมือโควิดระบาดระลอก 5 ห่วงจังหวัดฉีดวัคซีนน้อย

ที่กรมการแพทย์ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงมาตรการด้านการแพทย์รองรับสถานการณ์โควิด-19 ว่า ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ซึ่งทำงานร่วมกัน ได้รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิดขึ้นเร็วมาก และมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ กราฟค่อนข้างชัน เป็นระลอกที่ 5 ขณะนี้เข้าสู่การระบาดระลอกใหม่แล้ว เพราะยังมียอดตรวจ ATK เป็นบวก 3,000 กว่าราย วันนี้ที่กลัวคือจังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนน้อย อย่างไรก็ตามเชื้อโอมิครอนยืนยันว่าอาการไม่มาก โดยจากการรักษาคนติดโอมิครอนในไทย 100 ราย มี 7 คนเชื้อลงปอด แต่ไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ไม่ต้องใส่ออกซิเจนไฮโฟลว์ ส่วนใหญ่พบไอ 54% เจ็บคอ 37% มีไข้ 29% ปวดกล้ามเนื้อ 15% มีน้ำมูก 12% ปวดศีรษะ 10% หายใจลำบาก 5% ได้กลิ่นลดลง 2% พบครึ่งหนึ่งมีอาการ ครึ่งหนึ่งไม่มีอาการ ดังนั้นจากนี้การตรวจวัดไข้ก่อนเข้าสถานที่ต่างๆ นั้นไม่ได้ผลแล้ว ขอให้คัดกรองอย่างอื่นด้วย นอกจากนี้ อาการของผู้ติดเชื้อโอมิครอนแยกได้ยากกับโรคหวัดทั่วไป ดังนั้นใครที่มีอาการหวัดขอให้ตรวจ ATK และไม่พบปะผู้อื่น

นายแพทย์สมศักดิ์ ยืนยันยาฟาวิพิราเวียร์มีประสิทธิภาพ รักษาโรคโควิดสายพันธุ์อื่นๆ โดยคนเริ่มมีอาการได้รับยา 3 วันอาการดีขึ้น ทั้งนี้ หากตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นไปตามที่กรมควบคุมโรคคาดการณ์ ในกรณีหนักสุดติดเชื้อวันละ 30,000 รายนั้นยังรับไหว ซึ่งขณะนี้เราเตรียมเตียงดูแลผู้ติดเชื้อทุกระดับ 52,300 เตียง โดยในรอบนี้จะเน้นการรักษาที่บ้าน หรือ Home Isolation และศูนย์ดูแลในชุมชน หรือ Community Isolation และประสานเข้าระบบผ่าน 1330 ซึ่งจะดำเนินการจับคู่โรงพยาบาลให้ และประเมินอาการควรอยู่ที่บ้านหรือส่งต่อรักษาในโรงพยาบาล รับประกันภายใน 6 ชั่วโมง จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หากคลินิกไหนทำไม่ได้จะดำเนินการถอดออกจากระบบการดูแล แต่หากอาการหนักให้โทร.1669 เพื่อรับส่งต่อรักษาในโรงพยาบาล ขณะนี้ นายแพทย์เกียรติถูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตรียมศูนย์ประสานงานในทุกจังหวัดไว้แล้ว

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ารอบนี้จะเกิดการระบาดในเด็กเยอะ เพราะเด็กยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่ย้ำว่าเด็กติดได้แต่อาการไม่รุนแรง หากไม่มีโรคประจำตัว ขณะนี้มีการประสาน กทม.ให้จัดทำเตียง ศูนย์ดูแลในชุมชน สำหรับเด็กและครอบครัวเอาไว้ 6 โซน โซนละ 1 แห่ง แห่งละอย่างน้อย 50 เตียง และ 1 ห้องเด็กอยู่ร่วมกัน 3-4 คน มีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมได้ พร้อมทั้งมอบสถาบันเด็กแห่งชาติมหาราชราชินี ในการเตรียมยาน้ำฟาวิพิราเวียร์สำหรับเด็กทั่วประเทศ โดยโรงพยาบาลแต่ละแห่งสามารถทำได้เอง ไม่ต้องสำรอง พร้อมทั้งจัดหมอเด็กเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้ด้วย นอกจากนี้ยังเตรียมศูนย์ดูแลในชุมชนสำหรับแรงงานต่างด้าวด้วย โซนละ 1 แห่ง แห่งละประมาณ 100 เตียง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บราซิลจัดประชุม”บริกส์”ถกสงครามภาษีทรัมป์
สเปน-โปรตุเกสไฟฟ้ากลับมาแล้ว 99 %
ให้เลือด = ให้ชีวิต เบื้องหลังทุกหยดโลหิต…คือหัวใจจิตอาสา CPF ทั่วไทย
"นฤมล" ร่วมประชุมนายกฯ เกาะติดค้าชายแดน แผนพัฒนาศูนย์ขนส่ง One Stop Service เพิ่มสะดวกนำสินค้าเข้า-ออก
"โฆษก กอ.รมน." แจงทำหน้าที่ปกป้องสถาบันชาติ ใช้อำนาจตามกม.แจ้งความ "ดร.พอล" ผิดอาญา 112
MEA ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารร่วมกับมูลนิธิช่างไทยใจอาสา เสริมความปลอดภัยชุมชน พร้อมยกระดับมาตรฐานการดูแลอาคารหลังแผ่นดินไหว
“สหพัฒนพิบูล” จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 อนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 2.40 บาท
ครม.ไฟเขียวงบ 355 ล้าน เร่งแก้ไขน้ำท่วม-ปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน ‘แม่น้ำปิง-แม่น้ำกก’ ให้แก่กองทัพไทย
"ปานเทพ" สวนปาก "แซน" ขู่ฟ้องกลับ แย้มหลัง 23 พ.ค. ดีเอสไอพร้อมรับเป็นคดีพิเศษ ลุยพิสูจน์เหตุจริง ๆ "แตงโม" เสียชีวิต
“บางน้ำเปรี้ยว” ท้องฟ้าวิปริต “ตา 73” ช็อก! บ้านถล่มต่อหน้า-ทำได้แค่ยืนมอง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น