ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chanwit Suratprathin (คุณชาญวิทย์ ) โพสต์ภาพพร้อมข้อความ รีวิวเมื่อเพื่อนติดโควิดแล้ว จะปฏิบัติตัวอย่างไร ไม่ให้ตระหนก หรือ แพนิก โดยมีรายละเอียดว่า #ติดโควิดแล้วหาเตียงไม่ได้อย่าเพิ่งแพนิก #HomeIsolationฟรีทำง่ายและโอเคกว่าที่คิด
คนติดโควิดกลับมาเยอะมากอีกแล้ว รพ. เตียงเต็ม / Hospitel เตียงเต็ม รอคิวกันนานเหมือนระลอกที่แล้ว แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เอาจริง ระลอกนี้ เป็นสายพันธุ์ โอมิครอน ซึ่งค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า คนส่วนมากจะมีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่รุนแรง ยิ่งถ้าฉีดวัคซีนแล้วด้วย แนวโน้มที่จะปอดอักเสบยิ่งน้อย จึงอยากแนะนำว่าถ้ามีอาการน้อย แจ้งเรื่องขอทำ Home Isolation (แยกกักตัวที่บ้าน) ได้เลยนะ มียา มีอุปกรณ์ มาส่งถึงบ้านเลยมึง มีหมอโทร/ไลน์ ปรึกษา ดูแลตลอดเวลา “ฟรี” ไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่ยากเลยยย มาค่ะฟังรีวิวจากประสบการณ์ตรงของเพื่อนxูนี่
รีวิวนี้เป็นของเพื่อนที่ไม่ประสงค์ออกนามคนนึง นางไม่อยากเผยตัวตนเพราะตอนนี้ทำ Home Isolation อยู่ ไม่อยากให้เพื่อนบ้านรู้ เดี๋ยวจะมีดราม่าในหมู่บ้าน แต่พอคุยกับนาง นางก็อยากแชร์เรื่องนี้ เพราะประทับใจกับ ระบบ Home Isolation พอตัว
เรื่องของเรื่องคือนางติดโควิดพร้อมเรานี่แหล่ะ แต่ดวงนางเรื่องหารพ. กับ hospitel อาจจะไม่ค่อยดี คือที่ที่ติดต่อไปแต่ละที่ตอบกลับช้ามากๆ จนแบบ เอ๊ะ ไปต่อไม่ถูก นางเลยคิดในหัวว่างั้นทำ Home Isolation ดีไหมนะ เพราะอาการนางก็ไม่ได้เยอะ แถมฉีดวัคซีนมาแล้ว 3 เข็ม (SNP + SNP + MDN) คิดว่าอาการไม่น่าจะวิกฤตจนถึงขั้นปอดอักเสบ จึงตัดสินใจว่า โอเค xูจะกักตัวที่บ้าน ทำ Home Isolation
ตัดสินใจโทรเข้าเบอร์ 1330 สายด่วน โควิด สปสช. เลย พอรับสายเจ้าหน้าที่ก็จะขอข้อมูลให้ส่งเอกสารบลาๆ ก็ทำตามขั้นตอนไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องมีคือ “ผลตรวจ RT-PCR” เพื่อยืนยันว่า เราติดโควิดจริงๆ พอส่งเอกสารจบครบ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อย จากนั้นเขาจะประสานงานไปที่สถานพยาบาลในเครือข่ายที่ใกล้บ้านเราหรือสถานที่ที่เราจะใช้กักตัว Home Isolation เพื่อให้ หมอ/พยาบาล โทร/ไลน์ ของที่นั่น ติดต่อมาหาเรา เพื่อซักประวัติ สอบถามอาการ วินิจฉัย และเตรียมการส่งชุด Home Isolation พร้อมยามาให้เราถึงหน้าบ้าน จะไม่มีโอกาสไปแง้มประตูรั้วไปแพร่โรคให้ใครได้เลย
ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่นานเลย เริ่มต้นติดต่อ 1330 ตอน บ่าย 3 ส่งเอกสารครบ ตอนบ่าย 4 ประมาณ 30 นาทีต่อมา หรือบ่าย 4:30 คือ หมอโทรมาแล้วจ้า คุยกับหมอ ไม่เกิน 30 นาที วางสาย ประมาณ 1 ทุ่ม เสียงกริ่งมาหน้าบ้านแล้ว กล่องชุด Home Isolation มาส่งถึงบ้านละ ไวจริงๆ
อ่ะ ต่อไป ไป unpack ดูกัน ของที่มีก็ตามนี้เลย
-คู่มือการทำ Home Isolation
-ปรอทวัดไข้
-เครื่องวัดออกซิเจน
-ยาแก้ไอสูตรน้ำ
-ยาพาราเซตามอล
-ยาอมมะแว้งแก้ไอ ขับเสมหะ
-ฟาวิพิราเวีย*
-ถุงใส่ขยะติดเชื้อ
*สำหรับยาฟาวิพิราเวีย จะวินิจฉัยและจ่ายโดยแพทย์ตอนที่เขาซักประวัติเรานะคะ ว่าเรามีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการป่วยหนักไหม อย่างกรณีเพื่อนเรา นางแจ้งว่ามีโรคประจำตัวเป็นภูมิแพ้ในทางเดินหายใจ หมอจึงจ่ายยาให้ หากไม่มีโรคประจำตัว จะได้ เป็นยาฟ้าทะลายโจรค่ะ
ของทั้งหมดกล่องนี้รวมถึงการมาส่งถึงบ้าน “ไม่มีค่าใช้จ่าย” ค่ะ หลังจากนั้นทางหมอ/พยายาล ของสถานพยาบาลที่ดูแลเคสเราเขาก็จะทักไลน์มาวันละ 2 ครั้ง เช้า รอบ เย็นรอบ ในแต่ละรอบเขาก็จะขอเราให้เช็ก พวก สัญญาณชีพเบื้องต้น เช่น อุณหภูมิ ค่าออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นหัวใจ สอบถามอาการทั่วไปว่ามีผิดปกติไหม และก็จะให้คำแนะนำมาเหมือนในภาพค่ะ ทั้งนี้หากเราเกิดอาการวิกฤตเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน ก็สามารถโทรติดต่อทางสถานพยาบาลของเราได้ทันที โดยเขาจะเป็นผู้ประสานหารถพยาบาลและหน่วยพยาบาลกู้ชีพ รวมถึงส่งตัวเข้าโรงพยาบาลให้ค่ะ ก็จะทำแบบนี้วนไปจนครบเวลากักตัว 14 วันนะคะก็จะถือว่าเป็นระยะปลอดโรคค่ะ หากใครต้องการความชัวร์หลังกักตัวครบ 14 วัน สามารถตรวจ ATK หรือ RT-PCR อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเราหายแล้วจริงๆ ก่อนกลับไปใช้ชีวิตได้ค่ะ
จริงๆแล้ว สำหรับโครงการ Home Isolation เขามีอาหารส่งให้ 3 มื้อด้วยนะ แต่พอดี ทางเขตของเพื่อนเขาไม่มีบุคลากรเพียงพอในการจัดส่งอาหาร เลยแจ้งมาว่า ไม่มีอาหารส่งให้ ซึ่งเพื่อนไม่ซีเลย เพราะนางก็อยากกินอาหารของนางเองอยู่แล้ว อันนี้แจ้งไว้เผื่อใครกังวลเรื่องข้าวปลาอาหารว่ายังไงดี เขามีเตรียมให้ค่ะ สอบถามกับทาง 1330 ได้เลย
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นอีกรีวิวที่ให้ประโยชน์กับคนติดโควิดในตอนนี้ หลังจากรีวิวก่อนหน้าแค่ 3-4 วัน คือ รพ. / hospitel คือเต็มกันไวมากกก และเราคิดว่า Home Isolation จะต้องถูกนำมาใช้หลังจากนี้แน่นอน ถ้าใครมีความพร้อม สบายใจกับการกักตัวอยู่บ้าน อาการไม่หนักมาก ก็ลองพิจารณาดูนะคะ ขอบคุณเจ้าของประสบการณ์ที่เปิดเผยชื่อไม่ได้ สำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ
