‘อดีตรองอธิการ มธ.’เผย 7 ตัวแปร ชี้ชะตาการเมืองปีนี้

'อดีตรองอธิการ มธ.'เผย 7 ตัวแปร ชี้ชะตาการเมืองปีนี้

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า การเมืองปี 2565 ยังไม่มีอะไรแน่นอน มีตัวแปรหลายตัวที่จะทำให้ political scenario หรือสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป

ตัวแปรแรกคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสามารถเป็นายกรัฐมนตรีต่อไปจนครบวาระหรือไม่ เนื่องจากมาตรา 258 ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กำหนดให้บุคคลสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นระยะเวลารวมกันได้ไม่เกิน 8 ปี คำถามจึงอยู่ที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้ในปี 2560 ดังนั้นจะนับรวมเวลาที่พลเอก ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อนที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้หรือไม่ ฝ่ายที่เชียร์พลเอกประยุทธ์เชื่อว่าไม่รวม แต่ฝ่ายตรงข้ามบอกว่ารวม ดังนั้นต้องรอให้ศาลรัฐธรรนูญวินิจฉัยเมื่อใกล้ๆ กำหนดเวลา นั่นคือประมาณเดือนพฤษภาคม 2565

ตัวแปรที่ 2 คือ ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐจะมีผลทำให้ถึงกับพรรคแตกหรือไม่ หรือทำให้พลเอกประยุทธ์กับพลเอกประวิตร ต้องแยกทางกันเดินหรือไม่ แม้จะยืนยันว่าความตายเท่านั้นที่จะทำให้แยกจากกันก็ตาม

ตัวแปรที่ 3 คือ การเปลี่ยนแปลงของพรรคเพื่อไทยจะมีมากน้อยเพียงใด หัวหน้าพรรคยังจะเป็นคนเดิมหรือไม่ บทบาทของทายาทคุณทักษิณในพรรคจะเพิ่มมากขึ้นอย่างไรหรือไม่ และจะมีการประกาศตัว candidates นายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ ถ้ามี มีชื่อใครเป็น candidate บ้าง และในที่สุดพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบหรือไม่

ตัวแปรที่ 4 พรรคก้าวไกลจะถูกยุบหรือไม่ จากการให้การสนับสนุนผู้ที่มีเจตนาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ตัวแปรที่ 5 ขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ จะอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ หรือจะกลับฟื้นคืนชีพกลับมามีพลังอีกครั้ง

ตัวแปรที่ 6 ประธานคณะก้าวหน้าจะถูกตัดสินจำคุกในคดีใดคดีหนึ่งหรือไม่ ทั้งคดีที่สมัครลงเลือกตั้งโดยที่รู้ว่าตัวเองถือหุ้นบริษัทวีลัคมีเดียอยู่ และคดีวัคซีนพระราชทาน ตามมาตรา 112

ตัวแปรที่ 7 พรรคที่ตั้งใหม่และกำลังจะตั้งใหม่ เช่น พรรคไทยภักดี พรรคกล้า พรรคของ 4 กุมาร และอาจมีพรรคอื่นๆ อีก จะทำให้ประชาชนมีความหวังที่จะได้พรรคการเมืองยุคใหม่ที่ปราศจากนักการเมืองน้ำเน่าได้อย่างแท้จริงหรือไม่

ทุกตัวแปรล้วนมีผลต่อสถานการณ์การเมืองไทยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากพลเอกประยุทธ์ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีเกินกว่า 8 ปี จะต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีกันใหม่ พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อใคร หรือจะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ โดยให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ หรือหากศาลรัฐธรรมนูญให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ แต่รอยร้าวระหว่างพลเอก ประยุทธ์และพลเอกประวิตรไม่สามารถประสานกันได้ การเมืองก็จะเป็นอีกแบบ

หากพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยถูกยุบ และประธานคณะก้าวหน้าถูกศาลตัดสินจำคุก ก็จะมีคนสร้างความวุ่นวายด้วยการลงถนนประท้วง เหตุการณ์มีโอกาสบานปลายจนคาดไม่ได้ว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่จะไม่เป็นผลดีต่อประเทศแน่นอน

ดังนั้น สถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไรจึงขึ้นอยู่กับตัวแปรเหล่านี้ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผลการเลือกตั้งซ่อมในเดือนนี้ รวมทั้งผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเป็นตัวบ่งชี้ได้ส่วนหนึ่งว่าพรรคการเมืองใดในปัจจุบันได้รับความนิยมมากกว่ากัน อย่างน้อยก็ในจังหวัดที่มีการเลือกตั้งซ่อม และมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ไม่ว่าตัวแปรแต่ละตัวแปรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ หวังว่าตัวแปรที่ 7 จะเปลี่ยนไปในทางที่เป็นคุณแก่บ้านเมือง กล่าวคือในบรรดาพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ และที่กำลังจะตั้งขึ้น หวังว่าจะมีสักพรรคหนึ่งหรือสองพรรค ที่ประกอบด้วยนักการเมืองเลือดใหม่ พันธุ์ใหม่ ที่มีความรู้สูง ไม่มีประวัติด่างพร้อย ไร้นักการเมืองน้ำเน่าเขี้ยวลากดิน และจะต้องแสดงเจตนาที่ชัดเจนว่า ต้องการที่จะคงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์สืบไป จะให้ดียิ่งกว่านั้น คือมีจำนวนพรรคมากพอที่จะทำให้สามารถจับขั้วใหม่ทางการเมืองได้ ประชาชนจะได้มีทางเลือกมากขึ้น

หากมีพรรคการเมืองเช่นนี้เกิดขึ้นจริง ผมจะลงคะแนนให้อย่างไม่ลังเล และหวังให้ประชาชนทุกคนทำแบบเดียวกัน เพื่อทำลายความเชื่อที่อาจเป็นความจริงที่ว่า พรรคการเมืองในประเทศไทย จะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่เงินเพียงอย่างเดียว

อย่าลืมว่า อนาคตของชาติอยู่ในมือของประชาชนทุกคน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น