เมื่อวันที่ 7 ม.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ว่า
ตอนนี้ ต้องค่อยๆ ยกระดับมาตรการ ให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ หวังว่าจะไม่ต้องล็อกดาวน์กันอีกรอบ การระบาดที่เกิดขึ้น ผู้ติดเชื้อจำนวนมากไม่แสดงอาการ ไปจนถึงมีอาการน้อย ส่วนหนึ่งเพราะติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนไม่รุนแรงไปกว่าเดลต้า และคนไทยได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงแล้ว ปัจจุบันพยายามให้มีจุดวอล์ค อิน มากที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน เพราะทราบกันดีว่า วัคซีนช่วยป้องกันการป่วยหนัก และเสียชีวิต ส่วนการรักษาผู้ป่วย เรานำประสบการณ์มาปรับใช้ หากไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อยมาก เรามีระบบกักตัวที่บ้าน และในชุมชน มีแพทย์คอยดูแลอาการผ่านระบบการสื่อสารทางไกล หากมีอาการปานกลาง ให้เข้าสู่ระบบของโรงพยาบาลสนาม แต่หากป่วยหนัก ก็ต้องเข้าโรงพยาบาล ที่มีเครื่องมือพร้อม ทุกอย่างให้เป็นไปตามดุลย์พินิจของแพทย์ ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน มีอัตราป่วยหนักน้อยมาก แต่อย่าลืมว่าสายพันธุ์ที่ระบาด ณ ปัจจุบัน นอกจากโอมิครอนที่พูดถึงกันมาก เดลต้าก็ยังระบาดอยู่ด้วย ตรงนี้ต้องระวัง เพราะสายพันธุ์เดลต้า ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรง ประชาชนก็ต้องยกการ์ดสูงเอาไว้ก่อน
เมื่อถามถึงความกังวล เรื่องยอดผู้ติดเชื้ออาจจะสูงกว่า 30,000 คนต่อวัน นายอนุทิน กล่าวว่า ตัวเลข 30,000 คือการประเมินในกรณีที่ทุกคนการ์ดตก ประชาชนคนไทย ไปจนถึงภาครัฐไม่ทำอะไรเลย แต่ปัจจุบัน มาตรการต่างๆ กำลังทยอยออกมา และคนไทย ให้ความร่วมมือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องชื่นชมกับคนไทยทุกคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีวินัย และคิดถึงส่วนร่วม