นายแพทย์จอมเทพ หวังสันติตระกูล ผู้อำนวยการ รพ.พระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ กล่าวถึงกระแสดราม่า กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ไปฉีดวัคซีนป้องกัน covid 19 ที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์จังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ว่า
” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกประหลาดใจว่าทำไมถึง เปิดประเด็นดังกล่าวขึ้นมาได้ เพราะข้อเท็จจริงไม่มีอะไร โดยก่อนที่นายธนาธรจะมาฉีดวัคซีน ทางโรงพยาบาลได้รับนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุขว่า ต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการให้ได้มากที่สุด ซึ่งการฉีด มีทั้งแบบ walk in และแบบลงทะเบียน สำหรับคนที่ฉีด walk in โรงพยาบาลก็ฝากประชาสัมพันธ์ว่า ขอให้ไปบอกต่อๆกัน ให้มาฉีดวัคซีน ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ครอบคลุม
ส่วน ใคร ไปบอกนายธนาธร โรงพยาบาล ไม่อาจทราบได้ จนวันนัดหมาย ฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ได้มีการโทรตาม ซึ่งจากการตรวจสอบก็มีชื่อของนายธนาธรรวมอยู่ด้วย ตอนนั้นโรงพยาบาลคิดเพียงแค่ว่า ต้องการฉีดให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด
ประเด็นต่อมาคือ ประสิทธิภาพของวัคซีน โดยช่วงเวลาดังกล่าว โรงพยาบาลได้รับวัคซีน astrazeneca ซึ่ง 1 โดสสามารถฉีดได้ 6 คน และอายุวัคซีนหลังเปิดขวดจะมีเวลา 6 ชั่วโมง ถ้าหากเกิน 6 ชั่วโมงประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลง โรงพยาบาลจึงต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้วัคซีน เสีย จึงต้องมีการโทรตามให้คนมาฉีด
โดยในวันดังกล่าว ปรากฏ หลักฐานว่านายธนาธร มาฉีดวัคซีนในเวลาประมาณช่วงหัวค่ำของวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์จอมเทพบอกว่า ที่ต้องฉีดในช่วงค่ำ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกล้อง โทรตามผู้ที่มีรายชื่อ ซึ่งผู้ที่มีรายชื่อที่มาฉีดอาจจะใช้เวลาในการเดินทาง โดยในวันนั้นไม่ใช่มีแค่นายธนาธรเพียงคนเดียวแต่มีประชาชน อีกหลายคนที่มาฉีดในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา