เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดัง ตั้งอยู่กลางเมืองศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ. ณัฐกิตต์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ นายธนัชกฤศ บุดดีเสาร์ ป้องกัน จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.สุรพงศ์ วรพิมพ์รัตน์ รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ต.ทนงศักดิ์ ยะสูงเนิน สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ อส.จ.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ บุกเข้าไปตรวจค้นภายในร้านแห่งนี้ เนื่องจากสืบทราบว่า มีการแอบลักลอบปล่อยให้มีการมั่วสุมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเมื่อ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ทุกส่วนเข้าไปภายในร้านพบว่า มีการเล่นดนตรีเสียงดังและมีลูกค้าผู้มาใช้บริการเป็นคนหนุ่มสาว จำนวนประมาณ 60 คน กำลังพากันนั่งดื่มกินอาหารกันอย่างสนุกสนาน
นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ จึงได้สั่งให้ทางร้านเปิดไฟสว่างและได้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในร้าน พบว่าบนโต๊ะมีอาหาร และเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ทั้งเหล้าเบียร์ วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งแก้วที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีการนำเอากระดาษมาห่อไว้เพื่อตบหน้าเจ้าหน้าที่ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนผู้มาใช้บริการทุกคน และตรวจสอบใบอนุญาตผู้ประกอบการว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ จากนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการเก็บหลักฐานเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ทั้งหมด บิลรายการค่าอาหารที่มีการสั่งอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยได้ทำการจับกุมผู้รับผิดชอบร้านแห่งนี้ จากนั้น นำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากการมั่วสุมดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่ใกล้เคียงกับ จ.ศรีสะเกษ กำลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงมาก ซึ่งนายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษ จึงได้มีข้อสั่งการให้เข้มงวดกวดขันห้ามมิให้จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร สถานประกอบการ สถานบริการบันเทิง และร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ปฏิบัติตามคำสั่งหรือประกาศของจังหวัดศรีสะเกษอย่างเคร่งครัด หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ตนจึงได้นำเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจที่ร้านแห่งนี้และพบว่า มีการฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น ก่อนที่จะเข้าไปภายในร้านไม่มีการคัดกรอง การนั่งโต๊ะอาหารไม่มีการเว้นระยะ ไม่มีการจัดเจลแอลกอฮอล์เพื่อล้างมือ ซึ่งมีการปล่อยให้คนเข้าไปใช้บริการในร้านเยอะมาก เท่าที่ดูบนโต๊ะก็พบว่ามีเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ แสดงว่าผู้ประกอบการมีการปล่อยให้มีการฝ่าฝืนดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นอย่างมาก โดยพบของกลางเป็นสุราและเบียร์ พร้อมทั้งยังพบบิลรายการค่าอาหาร ที่มีการสั่งอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จึงจับกุมผู้รับผิดชอบร้านดังกล่าวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นการกระทำฝ่าฝืนคำสั่ง จ.ศรีสะเกษ ที่ 5721/2564 ลงวันที่ 27 ธ.ค.2564 เรื่อง มาตรการควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 56) ข้อ 8 ร้านจำหน่ายสุรา อาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านตามปกติ โดยห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ