จากกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ถูกแฉข้อมูลว่าไปฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เวลา 19.15 น. ที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ตัวเองเคยด้อยค่า และนายธนาธรยังใช้อภิสิทธิ์ในการฉีด เพราะช่วงเวลานั้น รัฐกำหนดให้ฉีดปะชาชนกลุ่ม 608 ทำให้โลกสังคมออนไลน์ยังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ต่อเนื่อง ล่าสุดในทวิตเตอร์ ได้มีการติดแฮชแทก #วัคซีนVIP จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ในช่วงเช้าวันที่ 9 มกราคม 2565 ซึ่งมีผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากได้ร่วมแสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าว อาทิ เเหกปากว่า “คนต้องเท่ากัน” เเต่กลับชอบใช้ชีวิตเเบบ “อภิสิทธิ์ชน” ถ้าเป็นคนดีๆหรือนักเลงจริงเขาไม่ทำกันหรอก ไอ้ประเภทด่าเขาเสียๆ หายๆ เเต่ลับหลังคนอื่นกลับย่องไปขอใช้บริการของเขา นี่หรือพ่อฟ้าของลูก?
อีกคนก็บอกว่า มีหมอต่างจังหวัดเอาวัคซีนที่เหลือก้นขวด โทรไปเรียกญาติพี่น้องมาฉีด เพราะไม่อยากเสียของ สามกีบด่าแหลก ปั่นกันจนหมอนั้นแทบหมดอนาคต ร้องห่มร้องไห้ แต่กับนายกโซเชียลและตั้งเป้าเป็นนายกทิพย์ในอนาคต 20 ปีข้างหน้า กลับไม่มีสามกีบมาเรียกร้องความเท่าเทียม
ขณะที่บางคนบอกว่า พวกคุณด้อยค่าวัคซีนให้น่ากลัวจนเพื่อนเราไม่ยอมพาพ่อแม่ไปฉีด เพื่อรอวัคซีนเทพ พ่อเพื่อนไม่ชินกับการป้องกันตัวใช้ชีวิตปกติ จนสุดท้ายนำเชื้อเข้ามาติดทั้งบ้าน พ่อเสียชีวิต คนงานในบ้านฉีด SV ทุกคนไม่มีใครติด แต่ตัวคุณเองกลับดอดไปฉีด AZ ที่คุณด่า เวรกรรมมีจริงนะ เราขอแช่ง!!
นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกคนกล่าวถึงการทำงานของสื่อมวลชนด้วยว่า ที่สื่อส่วนใหญ่ไม่เล่นประเด็นการรับวัคซีนของเด็กหนุ่มวัย 40 กว่าปีคนนั้น มันแปลว่าระบบอุปถัมภ์ ระบบเส้นสาย ระบบอภิสิทธิ์ชน มีอยู่ในทุกภาคส่วนของสังคม ไม่เว้นแม้กระทั่งในสังคมของคนที่เรียกร้องความเท่าเทียม ความเสมอภาคอย่างเอาเป็นเอาตาย #ความเสมอภาคไม่มีอยู่จริง