วันนี้ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล วิจารณ์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งงดประชุมสภาฯ 2 สัปดาห์ ไม่ใช่เพราะการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน แต่เพราะกลัวแพ้เลือกตั้งซ่อม ว่า ขอเล่าเพื่อเปิดหูเปิดตานายรังสิมันต์ให้กระจ่างว่า นายชวนพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะทราบว่าจะมีคนประเภทแบบนายรังสิมันต์อยู่ ที่มองทุกอย่างเป็นเรื่องลบ มองว่าการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาประเทศและบรรเทาปัญหาโควิดไม่ใช่เรื่องสำคัญ ทั้งนี้หลังจากสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้รับหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานราชการทำงานนอกสถานที่ตั้ง หรือ Work from Home ให้ได้มากที่สุด และหลีกเลี่ยงการรวมตัวคน นายชวนเห็นว่า สภาฯยังมีกฎหมายค้างอยู่ จึงโทรศัพท์กลับไปถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายว่า ถ้างดประชุมจะเกิดความเสียหายอะไรต่อกฎหมายของรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่ายังอยู่ในห้วงเวลาที่ไม่เสียหาย เมื่อเทียบกับความเสี่ยง อีกทั้งได้โทรไปหาอธิบดีกรมควบคุมโรคด้วยตนเอง เพื่อสอบถามความเห็นในฐานะหน่วยงานทางสาธารณสุข ได้รับคำตอบว่า ขอความกรุณาให้งดประชุม
นายชวนยังได้ให้วิปทั้งสองฝ่ายหารือจนได้ข้อตกลงร่วมกันว่า ให้งดประชุมดังกล่าว อีกทั้งยังให้ตนต่อสายไปหา นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน และนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านด้วย ซึ่งทั้งสองท่านไม่ติดขัดอะไร จึงเป็นที่มาของคำสั่งงดประชุม ดังนั้นการที่นายรังสิมันต์ กล่าวหาว่านายชวน สั่งงดประชุมสภาฯ เพราะกลัวแพ้เลือกตั้งซ่อมนั้น ก็เป็นการกล่าวเลื่อนลอยตามปกติวิสัยของนายรังสิมันต์ และแนะนำว่าก่อนจะออกมาฟาดงวงฟาดงา นายรังสิมันต์ควรไปถามแต่ละฝ่ายก่อนว่า เหตุผลการงดประชุมที่เเท้จริงคืออะไร เพราะการเอาเรื่องไม่จริง มาเล่นการเมืองโดยใช้วาทกรรมโจมตีอีกฝ่าย เพื่อหวังให้เกิดการตอบโต้กันไปมา จะได้เป็นข่าว มันขาดวุฒิภาวะ เหมือนเด็กเอาเเต่ใจ ไม่ใช่ผู้เเทนประชาชน ไม่ใช่วิถีการเมืองแบบใหม่ ที่นายรังสิมันต์ เรียกร้องมาตลอด