นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ตำนาน “ตายายกับตาอยู่” โดยเปรียบเทียบกรณี “ตายยายเก็บเห็บ” รวม 1,148 ท่อน ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้าจับกุมขบวนการตัดไม้ทำลายป่าในป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง มีต้นไม้ที่โดนตัด หรือโค่น จำนวน 700 ต้น พื้นที่ป่าเสียหายมากถึง 72 ไร่ แต่คนร้ายหนีไปได้หมด เจอแต่มอเตอร์ไซค์จอดไว้ในที่เกิดเหตุ 1 คัน เจ้าหน้าที่ได้นำมอเตอร์ไซค์ในที่เกิดเหตุไปขยายผล และพบว่านี่คือ ยานพาหนะของ นายอุดม ศิริสอน โดยนายอุดม และ นางแดง อ้างว่า ไม่ได้อยู่ในขบวนการตัดไม้ แต่เข้าไปเก็บเห็ดกันในป่าสองคน แต่โชคร้ายที่จุดใกล้เคียงกับที่เก็บเห็ด มีขบวนการตัดไม้ มาอยู่ใกล้ๆพอดี อย่างไรก็ตามจากการตรวจค้นบ้านพักของนายอุดม และนางแดง เจ้าหน้าที่พบไม้สัก และไม้กระยา ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. เป็นจำนวนรวม 1,148 ท่อน เป็นเงินมูลค่ารวม 552,160 บาท ซึ่งถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่า มีความเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า นี่เป็นการตัดไม้ทำลายป่าอย่างเป็นขบวนการ ต่อมาทั้งคู่ตัดสินใจ”สารภาพว่าเข้าไปตัดไม้ในป่าสงวนจริง”
ส่วน “ตาอยู่” “ธนาธร เป็นชาวประเวศ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ” ?? ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ ชี้แจงกรณีธนาธรได้รับสิทธิ์ฉีดวัคซีนว่า ทางโรงพยาบาลได้รับนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุขว่า ต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการให้ได้มากที่สุด ซึ่งการฉีด มีทั้งแบบ walk in และแบบลงทะเบียน สำหรับคนที่ฉีด walk in โรงพยาบาลก็ฝากประชาสัมพันธ์ว่า ขอให้ไปบอกต่อๆกัน ให้มาฉีดวัคซีน ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ครอบคลุม ประชาชนเพิ่งรู้ว่า ธนาธรซึ่งบ้านอยู่ใน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ได้รับอภิสิทธิ์เพื่อฉีดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่ในจังหวัดชาวสมุทรปราการให้ได้มากที่สุด
นายอัษฎางค์ ทิ้งท้ายว่า ตำนาน”ตายายกับตาอยู่” สอนให้เรารู้ว่า อ่านอะไรก็อ่านให้เกิด 8 บรรทัด ไม่อย่างนั้นจะเข้าใจผิดว่า ตายายเก็บเห็ดโดยรัฐกลั่นแกล้งให้ติดคุก ตาอยู่ ได้วัคซีนตามนโยบายของรัฐที่ว่า ฉีดให้คนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด