“หมอนิธิพัฒน์” คาดการระบาด “โอมิครอน” เพิ่มขึ้นและอาจจะพุ่งสูง ในช่วงปลายเดือน!

"หมอนิธิพัฒน์" คาดการระบาด "โอมิครอน" เพิ่มขึ้นและอาจจะพุ่งสูง ในช่วงปลายเดือน!

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล เปิดเผยถึงการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในหลายประเด็นทางวิชาการเกี่ยวกับการระบาดของ “โอมิครอน” ว่า ประเด็นแรกที่ถูกถามมากวันนี้คือ ทำไมถึงว่าการรายงานยอดผู้ป่วยรายวันต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะไม่รวมรายตรวจ ATK ใครสนใจลองไปรวมตัวเลขรายงานแต่ละวันแล้วย้อนหลังไปวันก่อนๆ หน้า คงเห็นเช่นเดียวกับที่นำเสนอ ยิ่งในแวดวงแพทย์ด้วยกันแล้วจะรับทราบกันดีอยู่แต่ไม่อยากเอ่ยถึง ถ้าเรามีระบบรายงานที่ถูกต้องตามการวินิจฉัยทางการแพทย์ สถิติประเทศจะมีความแม่นยำและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาตรงจุดและครอบคลุม ประชาชนจะมั่นใจและให้ความร่วมมือ ที่สำคัญถ้ารวมราย ATK เป็นบวกแล้วรักษาอยู่นอกโรงพยาบาลเข้ามาให้ครบด้วย ตัวเลขสัดส่วนผู้ป่วยอาการรุนแรงและผู้ป่วยเสียชีวิตก็จะต่ำกว่าที่รายงานกันอยู่ขณะนี้ด้วย
ประเด็นถัดมาเป็นการให้คาดเดาว่าระลอกห้าจะไปต่อแรงแค่ไหน

มีความเห็นว่ามี 3 ตัวแปรที่ยากคาดเดา

  • 1 .การยกการ์ดสูงของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศจะทำกันได้ดีต่อไปแค่ไหน
  • 2. การควบคุมผู้แตกแถวรวมกลุ่มในกิจกรรมเสี่ยงทำได้เข้มแข็งเพียงไร ทั้งโดยประชาชนกันเองช่วยสอดส่องและภาครัฐที่คอยกวดขัน (ประการหลังดูน่าห่วงกว่า)
  • 3.พฤติกรรมของ “โอมิครอน” ในบ้านเราจะเป็นอย่างไร ถ้าเจอกับคนฉีดวัคซีนกันมากแถมระวังตัวกันดีด้วย แต่ถ้าให้เดาคิดว่าคงจะค่อยๆ เพิ่มไม่ฮวบฮาบจนถึงจุดสูงสุดช่วงปลายเดือน จากนั้นจะลดลงต่อเนื่องเหมือนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศซึ่งนำหน้าไปก่อน ท้ายสุดเป็นเรื่องการระบาดของ “โอมิครอน” ในกลุ่มเด็ก

ในระลอกที่ผ่านมาช่วงเดลตาครองตลาด มีผู้ป่วยเด็กประมาณ 10-15% ของผู้ป่วยทั้งหมด เพราะช่วงนั้นยังมีการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่และเด็กกันน้อย บางส่วนมีอาการรุนแรงโดยเฉพาะรายที่เกิดการอักเสบในหลายอวัยวะ (multisystem inflammatory syndrome) ซึ่งพบในเด็กบ่อยกว่าผู้ใหญ่ ช่วงนี้แม้จะฉีดมากขึ้นในผู้ใหญ่แต่ภูมิเริ่มตก ส่วนเด็กก็ยังฉีดแค่ในช่วง 12-17 ปีเป็นหลัก รอบนี้จึงมีผู้ป่วยเด็กรายวันอย่างน้อย 10% ที่ทำงานอยู่เมื่อวานก็มี 5 จาก 30 ราย ทั้งหมดอาการไม่รุนแรง แต่ต้องระวังในเด็กอายุน้อยและที่มีโรคเรื้อรังเดิมที่ผู้ใหญ่นำโควิดกลับเข้าบ้านไปฝาก ยังดีว่าข้อมูลทั้งจากภายนอกและภายในประเทศ ขณะนี้ไม่พบอาการรุนแรงของ โอมิครอน ในเด็กต่างจากเดลตา
กินยาฟาวิพิราเวียร์แล้วตาขาวเป็นสีน้ำเงินอมม่วงจริงไหม ตอบว่าจริง เป็นผลจากตัวยาเองที่ให้ขนาดสูงมากในวันแรก จะมีสารเรืองแสงสีน้ำเงินจากการสลายตัวของยาไปติดอยู่ตามตาขาวและเล็บได้ ไม่ทำอันตรายต่อร่างกายและหายไปได้เองในสองสามวัน เคยพบกันมากช่วงการระบาดในทัณฑสถานเมื่อกลางปีก่อน

“เดลตาครอน” ที่รายงานจากไซปรัสน่ากลัวไหม

เท่าที่สืบค้นดู ทางภาคการแพทย์กำลังตรวจสอบจริงจังกับห้องปฏิบัติการที่รีบออกมารายงาน ว่าเป็นสายพันธุ์ลูกผสมอย่างว่าจริงไหม เพราะความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมเป็นไปได้ยาก หรืออาจเป็นความคลาดเคลื่อนในการตรวจของห้องปฏิบัติการนั้นเอง
“Flurona” ที่รายงานเป็นครั้งแรกจากประเทศอิสราเอลน่าตื่นเต้นไหม

สำหรับการมีผู้ป่วยติดโควิดกับไข้หวัดใหญ่ในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ทางการแพทย์ ซึ่งโรคติดเชื้อจะเกิดในคนหลายโรคในเวลาใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะโรคติดเชื้อที่มีความชุกสูงเช่นที่เกิดจากเชื้อไวรัส บ้านเราพบประปราย ทั้งไข้เลือดออกและไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออกและโควิด หรือ โควิดและไข้หวัดใหญ่เช่นกรณีนี้ แต่ทั้งหมดไม่ได้ทำให้ความรุนแรงของแต่ละโรคเพิ่มขึ้น และช่วยขับเน้นความสำคัญของการฉีดวัคซีนโควิดและไข้หวัดใหญ่ไปในเวลาใกล้เคียงกัน ถ้าเป็นได้ให้ห่างกันอย่างน้อย 7 วัน

ที่ไม่ถูกถามเลยคือ ทำไมตัวเองเลือกฉีดวัคซีนเข็มสี่เป็นของ ซิโนแวค-ซิโนแวค-ไฟเซอร์-แอสตร้า (ดังรูป) วันนี้ (ฉีด) เรียบร้อยโรงเรียนแพทย์ริมน้ำไปแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่งุนงงและต้องขออนุญาตผู้มีอำนาจตัดสินใจก่อนเพราะไม่มีใครทำกัน แต่ถ้าไปดูผลการทดลองในอังกฤษ (ดังรูป) พร้อมคำอธิบายในบทความนั้นแล้วจะเข้าใจ (อาจเทียบเคียงได้ไม่ดีนักเพราะของเขาเป็นของ ไฟเซอร์-ไฟเซอร์-แอสตร้า) แต่ถ้าไม่ได้ผลดีนักทางกาย แต่อย่างน้อยก็อิ่มเอมใจที่ได้สละวัคซีนของไฟเซอร์โควต้าตนเองแก่ผู้อื่น https://www.thelancet.com/action/showPdf?pii=S0140-6736%2821%2902717-3

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทักษิณ" ลั่นอย่าฟังเสียงนกเสียงกา "รัฐบาล" ใกล้พัง หยันฝันลมแล้งยุบสภา จวกขาประจำด่านายกฯระวังให้ดี
"พิพัฒน์" รับยังไม่พอใจ ผลผลักดันขึ้นค่าแรง 400 บาท คาดหวังจะได้หลายจังหวัดกว่านี้
ตร.ไซเบอร์ บุกทลาย "เว็บพนันรายใหญ่" เมืองเชียงราย พบเงินหมุนเวียน 200 ล้านต่อเดือน
เพจดังโคตรแสบ! ตั้งฉายา สส.พรรคส้ม แห่กระทืบไลก์ “มะขิ่น ขอสไลด์”
จีนเตือน ‘ฟิลิปปินส์’ ถอนระบบขีปนาวุธสหรัฐฯ ตามคำมั่น
ซานต้าเริ่มตระเวนแจกของขวัญในวันคริสต์มาสอีฟ
บริกส์รับไทยเป็นหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการมกราคมปีหน้า
ตำรวจเปรูปลอมตัวเป็น “เดอะ กริ๊นช์” ทลายแก๊งยาเสพติด
ปูตินเผยคืบหน้าแผนพัฒนาดินแดนยึดครองรัสเซีย
อธิบดีกรมการจัดหางาน รับมีการซื้อใบรับรองแพทย์ 'ตรวจโรคต่างด้าว' ขอความร่วมมือนายจ้างเข้มงวด หวั่นเกิดโรคระบาด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น