“ไชยวัฒน์” แกนนำ พธม. เปิดใจท็อปนิวส์ หลังได้พระราชทานอภัยโทษ!

“ไชยวัฒน์” แกนนำ พธม. เปิดใจท็อปนิวส์ หลังได้พระราชทานอภัยโทษ!

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดใจกับทีมข่าวท็อปนิวส์ หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมแกนนำอีก 2 คน ได้แก่ นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิ ใจดี ซึ่งศาลฎีกาพิพากษา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 จำคุกเป็น 8 เดือน คดีชุมนุม “ดาวกระจาย” ขับไล่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ปี 2551

โดย นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การต่อสู้ในทางการเมือง โดยเฉพาะการลงถนน ไม่ได้เปลี่ยนไปในเนื้อหาสาระ เปลี่ยนเพียงประเด็นที่จะนำเสนอ เพื่อสร้างพลังร่วมให้ออกมาขับเคลื่อน ซึ่งตนมองว่าเป้าหมายเหมือนกันทั้งหมด อยากให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ตั้งแต่ 14 ตุลา 16 พฤษภา 35 จนถึงพันธมิตร กปปส. หรือแม้แต่นปช. แต่ผลของการขับเคลื่อนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเท่าที่แต่ละกลุ่มคาดหวัง จนล่าสุดน้องๆออกมาเคลื่อนไหว เพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ขึ่งเขาเข้าใจว่าจะเป็นทางที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่จากการลงถนนมาตั้งแต่ 14 ตุลา 16 จนถึงปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นโดยการลงถนนอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบทั้งหมด คำตอบทั้งหมดอยู่ที่ว่าทุกภาคส่วน ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาชน จะจับมือขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาสังคมอย่างไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทุกภาคส่วนรับได้ ซึ่งน่าจะเป็นคำตอบที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ 14 ตุลา 16 เพราะที่ผ่านมามีแต่ลงถนน มีแต่ตรวจสอบ มีแต่นักร้อง แต่นักที่จะประสานให้เกิดการรวมพลังภาครัฐ ภาคธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดพลังสังคม และให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทุกฝ่ายรับได้ ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ฉะนั้นตนจึงมีทัศนะตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ น่าจะเปลี่ยนมิติเคลื่อนไหวมาในเชิงพัฒนา เพราะเรามีอายุมากขึ้น เห็นความจริงมากขึ้น เห็นกำแพงหนาขนาดไหนมากขึ้น เห็นสภาพพลังวิ่งชนกำแพงไหวไม่ไหวมากขึ้น จึงคิดในการเคลื่อนไหวเชิงมิติพัฒนา แม้จะกำหนดเวลาไม่ได้ ก็ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงสะสมไป ดีกว่าทุบมันทิ้งเพื่อเปลี่ยนแปลงใหญ่เลย ไม่น่าจะใช่

นายไชยวัฒน์ ได้อธิบายถึงแนวทางเคลื่อนไหวเชิงมิติพัฒนาเพิ่มเติมว่า ภาคประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจ ประสานภาครัฐ ประสานภาคธุรกิจ ให้เกิดการรวมพลังกันขับเคลื่อนสังคม ในประเด็นที่รับกันได้ก่อนได้หรือไม่ เช่น ประเด็นแรก ร่วมกันทำเมืองเกษตรอินทรีย์ ตามด้วยเรื่องสุขภาพ ภาครัฐจะทำอะไร ภาคเอกชนจะทำอย่างไร และภาคประชาชนจะขับเคลื่อนอย่างไร

นายไชยวัฒน์ ยืนยันว่าไม่เสียใจ ที่ออกมาเคลื่อนไหวแล้วถูกตัดสินจำคุก ส่วนกรณีเยาวชนที่ออกมาลงถนนต่อต้านรัฐบาลและเรียกร้องแก้ม.112 นั้น ตนไม่กล้าจะเตือนโดยตรง แต่ตอนที่ตนจะต่อสู้ ได้ไปชวนนายอุทัย พิมพ์ใจชน ซึ่งตอนนั้นเป็นหัวหน้าพรรรคเอกภาพ ท่านเป็นคนที่ใจถึง แต่กลับปฎิเสธ และบอกว่าจะเสียเวลาเปล่า เพราะเขามีความเข้าใจมองออกถึงความเป็นจริงในสังคม ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่า และเคยเตือนตนเองไว้ แต่ตนกลับหลงผิดในตัวเองและอหังการมากเกินไป เพราะยังเป็นวัยหนุ่ม ยังมีแรงที่อยากจะต่อสู้ให้บ้านเมือง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สุดท้ายตั้งแต่พฤษภาทมิฬมาบ้านเมืองเปลี่ยนไป แต่ไม่เปลี่ยนไปตามที่เราคาดหวัง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น