โซเซียลแห่แชร์หลังพบจระเข้ขนาดใหญ่ ขึ้นมานอนอาบแดดที่ริมลำห้วยซึ่งอยู่ต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำลำพันชาด แถวบ้านวังทอง บ้านคำยาง ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดป่าไม้งาม ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีชาวบ้านพบกับจระเข้ตัวเขื่องนอนอาบแดดอยู่บริเวณนี้ พบ นายวิชธวัช วรรณพัฒน์ อายุ 29 ปี ชาวบ้านบ้านคำยาง ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ และเป็นเด็กวัดป่าไม้งาม เล่าให้ฟังว่า เรื่องจระเข้ที่ลำพันชาด ตนเห็นด้วยตาตัวเองเมื่อหลายเดือนก่อน โดยเห็นจระเข้ มานอนอาบแดดอยู่บนโขดหินฝั่งอีกฝั่งหนึ่งของวัด ซึ่งตอนนั้นถ่ายรูปเอาไว้ได้
ต่อมาอีก 2 เดือน ตนและเพื่อนช่วยพระอาจารย์ปลูกต้นไม้ที่บริเวณวัด เมื่อกำลังจะข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของลำห้วย เห็นจระเข้ตัวใหญ่นอนอาบแดดอยู่ริมน้ำ ซึ่งตรงจุดนี้จะมีลักษณะคล้ายถ้ำ หากน้ำลดลงจะมีร่องลึกเข้าไป ทั้งนี้ตนไม่ได้หวาดกลัวเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก หากขึ้นไปต้นน้ำแถวบ้านวังใหญ่ บ้านวังทอง ก็จะเห็นอีกหนึ่งตัว เป็นจระเข้เผือก ขนาดกว้างเท่ากระสอบปุ๋ย มีความยาวประมาณ 3 เมตร ต่อมาช่วงเข้าพรรษาปี 2564 น้องชายถ่ายคลิปจระเข้ อยู่บริเวณถ้ำตรงข้ามกับศาลาริมน้ำเอาไว้ได้
ด้าน พระสกุล ธีรปัญโญ พระลูกวัดป่าไม้งาม บอกว่า ใครบอกว่าไม่เชื่อว่ามีจระเข้ ที่ลำพันชาด แต่อาตมาเชื่อ เพราะจำพรรษาอยู่วัดนี้มานาน 9 ปี เห็นจระเข้ทุกปี น่าจะเป็นจระเข้ตามธรรมชาติ ก็ปล่อยเขาไป เราไม่ได้ไปทำร้ายเขา แต่หากใครไม่เชื่อให้ลองมาสังเกตที่วัด สำหรับลำห้วยลำพันชาด มีพื้นที่กว้างใหญ่ ไล่ตั้งแต่บ้านวังใหญ่วังทอง ต.ผาสุก ยาวไปถึง ต.หนองกุงทับม้า และเป็นรอยต่อระหว่าง อ.วังสามหมอ กับ อ.คำม่วง และ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ สำหรับ อ.วังสามหมอ ถือว่าเป็น 1 ในอำเภอที่มีตำนานเกี่ยวข้องกับจระเข้ โดย วังสามหมอ มาจากตำนานที่ว่า มีจระเข้ใหญ่ตัวหนึ่งหลงกลืนร่างธิดาเจ้าเมืองท่าขอนยาง แล้วกลัวความผิด จึงหนีการตามล่ามาอาศัยอยู่ที่วังน้ำใหญ่ของลำน้ำพันชาด พอเจ้าเมืองได้ข่าวจึงให้หมอจระเข้มาปราบ แต่ปราบไม่ได้ แถมยังต้องสังเวยชีวิต คนสุดท้ายเป็นหมอหญิง ชื่อ “นางคำบาง” สามารถปราบจระเข้ ได้ เพราะการใช้หมอจระเข้ถึง 3 คนนั่นเอง วังน้ำแห่งนี้จึงถูกตั้งชื่อว่า “ วังสามหมอ” ก่อนถูกนำมาใช้เป็นชื่ออำเภอในที่สุด