14 มกราคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) กล่าวถึงสถานการณ์โรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ที่ส่งผลกระทบทำให้หมูขาดตลาดและราคาหมูแพงเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งเรื่องเกิดตั้งแต่ปี 2561 มีการระบาดแพร่กระจายในหลายประเทศ จนเมื่อเดือนเมษายน 2562 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีขอความเห็นชอบประกาศการเฝ้าระวังป้องกันโรคอหิวาต์หมูเป็นวาระแห่งชาติ จากวันนั้นจนถึงวันนี้มีการขอความเห็นชอบที่ประชุม ครม.อนุมัติงบประมาณดำเนินการเรื่องนี้รวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง ในวงเงินกว่า 1,500 ล้านบาท เป็นการทำกันเอง รู้กันเอง อนุมัติกันเอง ระหว่างส่วนราชการและฝ่ายบริหารเท่านั้น ประชาชนคนไทยพึ่งทราบเป็นทางการจากหน่วยงานรัฐวันที่ 11 มกราคมนี้เองว่าตรวจพบเชื้ออหิวาต์หมูในประเทศไทย โดยนายเสกสกล ระบุว่า เรื่องนี้รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้นิ่งนอนใจ รับทราบดีถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนดี และในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติงบประมาณ 574 ล้านบาทเพื่อแก้ปัญหาหมูแพงไปแล้ว และยังได้กำชับให้รัฐมนตรีและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด
นายเสกสกล กล่าวว่า นายณัฐวุฒิ ไม่ควรจะมาโหนกระแสเอากับเรื่องนี้ ให้เรื่องมันเข้าตัวเปล่าๆ นายณัฐวุฒิเคยมีโอกาสเป็นเสนาบดี จากการเป็นแกนนำม็อบที่เชิญชวนคนออกมาทำร้ายบ้านเมืองก็ถือเป็นเรื่องตลกร้ายอยู่แล้ว แต่พอได้ดีเป็นเสนาบดีก็ยังแอบลุ้นว่าจะทำงานได้หรือไม่ ในที่สุดก็พบว่าฮากว่า และเชื่อว่านายณัฐวุฒิคงยังจำได้ดี เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ตอนปี 56 ที่ไม่สามารถตอบคำถามสื่อมวลชนได้กรณีที่ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว ที่ขาดทุนถึง 2.6 แสนล้าน จนท้ายที่สุดต้องยิ้มหน้าเจื่อนเพราะขำไม่ออก ที่ไม่สามารถชี้แจงข้อมูลได้ ดื่มแต่น้ำเปล่าจนหมดไปหลายแก้ว ถือเป็นอดีตที่ฝังใจนายณัฐวุฒิ ที่อยากจะลืมแต่ก็คงลืมไม่ลง
นายเสกสกล กล่าวว่า ปัญหาของกระทรวงพาณิชย์ที่ดูแลเกี่ยวกับราคาสินค้า และมีผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน นายณัฐวุฒิก็รู้ดีว่าบางครั้งก็เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมาย อย่างเช่นกรณีนี้ที่เกิดการระบาดของเชื้ออหิวาต์หมูหรือ ASF จนมีผลกระทบไปถึงสินค้าอื่นที่ขึ้นราคาไปด้วย ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เองก็พยายามควบคุมสินค้า อย่างวันนี้ก็ได้ควบคุมราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มให้อยู่ที่ฟองละ 2.9 บาท ขณะที่นายกรัฐมนตรีเอง ก็ติดตามเรื่องนี้มาตลอด และได้กำชับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องสั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้เลี้ยงสุกรตามกรอบวงเงิน 574 ล้านบาทที่ครม.อนุมัติไปแล้วโดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้เลี้ยงสุกร
” นายณัฐวุฒิก็เคยเป็นรมช.พาณิชย์ ช่วยแก้ปัญหาการโกงข้าวชาวนาไม่ได้ จนรัฐบาลนี้ต้องตามใช้หนี้ใช้สินหลายแสนล้านตราบจนทุกวันนี้ อย่ามาเที่ยวสะเออะ เสนอแนะเพราะไม่มีใครอยากฟังความเห็นที่ชอบตีกินการเมือง เพื่อโชว์นายใหญ่ทางไกล ควรพอได้แล้ว มวยหมดรูปหมดราคาแล้วครับ”นายเสกสกลกล่าว