น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ธนาคารออมสิน ช่วยฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนผู้ตกงาน หรือขาดรายได้ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยสนับสนุนงบประมาณในโครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ” วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ใช้เสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ ล่าสุดทางธนาคารออมสินได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอกู้ได้สูงสุดถึง 3 แสนบาทด้วยเงื่อนไขพิเศษอัตราดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี (ลดต้นลดดอก) ตลอดอายุสัญญา ผ่อนชำระไม่เกิน 5 ปี พร้อมกันนี้ยังผ่อนปรนหลักเกณฑ์เงื่อนไขการกู้ เช่น ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 งวดแรก สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน ส่วนวงเงินกู้ 200,000 – 300,000 บาท ใช้บุคคลค้ำประกัน รวมทั้งไม่คิดค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจได้กว่า 75,000 ครัวเรือน
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยคุณสมบัติของผู้กู้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. ผู้เริ่มประกอบอาชีพ ผู้ประกอบการรายย่อย เช่น ช่างฝีมือทุกประเภท งานศิลปะ ช่างหัตถศิลป์ หรือ ผู้ไม่ใช่ช่างฝีมือ แต่ผ่านการฝึกอบรมอาชีพ โดยมีใบประกาศนียบัตรหรือมีวุฒิบัตรรับรอง วงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท 2. ผู้ขับขี่รถสาธารณะ เช่น แท็กซี่หรือรถรับจ้างประเภทต่าง โดยมีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ รวมถึงผู้ซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ในโครงการของธนาคาร วงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 100,000 บาท และ 3. ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านค้าส่งค้าปลีก ร้านขายของที่ระลึก โชห่วย ธุรกิจแฟรนไชส์ ที่มีสถานที่ตั้งกิจการแน่นอน และมีเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของ วงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 300,000 บาท ทั้งนี้สามารถลงทะเบียนขอกู้ได้แล้วตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 หรือจนกว่าจะครบจำนวนวงเงินในโครงการ ที่เว็บไซต์ธนาคาร www.gsb.or.th สำหรับประชาชนที่ไม่สะดวกลงทะเบียนด้วยตนเอง สามารถติดต่อที่สาขาธนาคารทั่วประเทศ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกหรือแนะนำวิธีการลงทะเบียนให้ได้
“จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด รัฐบาลได้ระดมมาตรการเยียวยาประชาชน ทั้งลดภาระค่าครองชีพ ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ และโครงการช่วยเหลือเยียวยา ที่เงินถึงมือประชาชนโดยตรงในหลายโครงการ ทั้ง โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ โครงการม.33 เรารักกัน โครงการช็อปดีมีคืน ซึ่งทำให้เงินหมุนเวียนเข้าไปกระตุ้น และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งหลายโครงการเป็นที่นิยมของพี่น้องประชาชน และทำให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยี นำไปสู่การพัฒนาสังคมดิจิตอลได้”น.ส.ทิพานัน กล่าว