นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กข้อความว่า เลือกตั้งคราวนี้ บอกอะไรท่านและบอกอะไรเรา “Jack is coming to town. แจ็คกำลังจะมา”
1. ประชาธิปัตย์ เจ้าถิ่น ชนะในพื้นที่ ด้วยการใช้ทรัพยากรมหาศาล
2. พลังประชารัฐและก้าวไกล แบรนด์เสื่อม พลังความนิยมทรุด เพราะตัวสมาชิกของพรรคเอง ตกม้าตายด้วยตัวเอง พลังประชารัฐ เอาลูกรักของลุง ป แต่เป็นคนที่ประชาชนร้องยี้มาเป็นหัวหน้าทีมหาเสียง แถมคำพูดหาเสียงก็เป็นคำพูดเพื่อฆ่าตัวเองและพรรค ก้าวไกล เอาเด็กเมื่อวานซืนมาลงสมัคร เหมือนตั้งใจมาแพ้ แถมปล่อยให้เด็กเกรียนโพสต์แสดงจุดยืนว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเหิมเกริม เหมือนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่พรรคตั้งใจปล่อยให้เด็กทำ เพื่อดึงคะแนนจากคนที่คิดเหมือนกัน แต่บังเอิญมีประชาชนที่คิดเหมือนกันอยู่ไม่กี่คน
3. กล้า ยังไม่ชนะ แต่กลายเป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจในสายตาประชาชน
4.ก้าวต่อไป ก็ยังไม่ใช่ก้าวไกล แต่เป็นก้าวใกล้ๆ ในสนามกรุงเทพ ซึ่ง 2 พรรคใหญ่อย่างพลังประชารัฐและก้าวไกล จะเจอกับ 2 พรรคใหม่ อย่างพรรคกล้าและไทยภักดี ซึ่งอาจจะกลายเป็น 2 พรรคใหญ่ในอนาคต
นายอัษฎางค์ กล่าวว่า จับตาดูให้ดี พรรคใหญ่ๆ ที่ใครล้มไม่ลง มักล้มลงด้วยตัวเอง ไม่เชื่อลองย้อนไปดูไทยรักไทย ไทยรักไทย ไม่ได้ล้มเพราะถูกปฏิวัติ แต่ล้มเพราะเจ้าของพรรค ซึ่งเป็นการล้มลงเพราะตัวเอง เลือกตั้งครั้งต่อไป ไทยภักดีหรือกล้า อาจเป็น”แจ็ค”ในสนามกรุงเทพ “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” แจ็ค ซึ่งจะกลายเป็นผู้ที่ก้าวไกลด้วยพลังประชารัฐตัวจริงเสียงจริงในการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตใหม่อันใกล้นี้ ประชาชนส่งเสียงเตือนท่านแล้ว นะจะบอกให้
นอกจากนี้ นายอัษฎางค์ ยังกล่าวว่า พิธา ประชาชนเลือกแล้ว เอาประเทศชาติ เอาประยุทธ์ เอาประชาธิปัตย์ เอาภูมิใจไทย เอากล้า เอาไทยภักดี เอาพรรคการเมืองที่จงรักภักดี ไม่เอาปฎิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ซ้อนเร้น ไม่เอาก้าวไกล เลือกตั้งกี่ครั้งก็แพ้ พิธา จะเอายังไง ดูตัวอย่าง อภิสิทธิ์ สุภาพบุรุษนักการเมือง แพ้ก็ยอมรับว่าแพ้ ยอมลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคด้วยตัวเองแต่โดยดี โดยไม่มีใครมาไล่ แล้ว “พิธาจะเอายังไง ในเมื่อประชาชนไม่เอา ก้าวไกล”