เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 ม.ค.2565 พ.ต.ท.(หญิง)วีระญา คชบริรักษ์ สว.(สอบสวน)สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตายที่หน้าบ้านเลขที่ 452/1 หมู่ 5 ซอยแพปลา หมู่ 5 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ รามสวัสดิ์ ผกก.สภ.สิชล พ.ต.ท.บัณฑิต สุขะวิศิษฐ์ รอง ผกก.ป. ,พ.ต.ท.สุรินทร์ ชูศรี รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สุพรไชย ลิกขะไชย รอง ผกก.สส.พ.ต.ต.ภูรินทร์ เพชรที่วัง สว.สส.และกำลังตำรวจชุดสืบสวน,แพทย์เวร รพ.สิชล และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจสิชล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปที่สอบสวนและชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุบนลานพื้นดินหน้าบ้านซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวกลางซอย พบศพผู้ตายชื่อนายวิโรจน์ มุสิกพงค์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 459/5 หมู่ 5 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนหงายในชุดนุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สวมเสื้อยืดคอกลมสีเขียว สวมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีเทา สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .32 เข้าบริเวณท้ายทอย 1 นัด และใต้ตาขวา 1 นัด กระสุนฝังใน นอนตายในซอยที่เกิดเหตุ
ส่วนคนร้ายมือยิงทราบชื่อนายอดิศรหรือโป้ ขุนพรหม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่เกิดเหตุและ ผู้ต้องหายังอยู่ในอาการเมายาเสพติด หลังก่อเหตุได้ถูกชาวบ้านและตำรวจล้อมจับได้ทันควันพร้อมอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุขนาด.32 จำนวน 1 กระบอก พร้อม ปลอกกระสุนคาอยู่ในรังเพลิง 6 ปลอก ซึ่งทราบว่าเป็นอาวุธปืนของผู้ตายนั่นเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์และสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายวิโรจน์ ผู้ตายมีอาชีพทำประมงนิสัยดี เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านทั่วไป และมีบ้านพักอยู่ในซอยที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านพักของนายอดิศร ฯมือปืน ที่พักอยู่กับแม่ ซึ่งที่ผ่านมานายอดิศร หรือโป้ ผู้ต้องหาติดยาเสพติดและเสพยาจนมีอาการหลอนยาเสพติดมักจะอาละวาดทำลายข้าวของและทำร้ายชาวบ้านในซอยดังกล่าวเป็นประจำจนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 16 ม.ค.2565ที่ผ่านมา นายอดิศรหรือโบ้ มีอาการคลุ้มคลั่งยาเสพติด ได้เดินเตะถังขยะในซอยล้มลงไปหลายถัง จนเดินเตะถังขยะมาถึงหน้าบ้านพักของนายวิโรจน์ ผู้ตาย จังหวะนั้นได้มีนางวิภา สินรากหอย อายุ 66 ปี ภรรยาของนายวิโรจน์ฯ ผู้ตายกำลังนั่งอยู่หน้าบ้านพอดี นายอดิศรหรือโป้ ได้ตรงเข้าไปเตะต่อยทำร้ายร่างกายจนนางวิภาจนล้มคว่ำลมได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหูฉีกขาดเย็บ 3 เข็มและแผลแตกศีรษะถูกส่ง รพ.สิชล ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีพลเมืองดีเข้ามาห้ามนายอดิศร หรือโป้ มือปืนทาสยานรก แต่กลับถูกนายอดิศร หรือโป้ ทำร้ายร่างกายพลเมืองดีจนหนีกระเจิง ก่อนนายอดิศรหรือโป้ จะถูกตำรวจสายตรวจ สภ.สิชลเข้าจับกุมไปดำเนินคดีที่ สภ.สิชล หลังเกิดเหตุนายอดิศรหรือโบ้ มีอาการคลุ้มคลั่งยานรกทำร้ายนางวิภา และชาวบ้าน จนถูกตำรวจจับกุมไปโรงพัก ได้มีนายสุพล พูลสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลสิชล และชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ รามสวัสดิ์ ผกก.สภ.สิชล ขอร้องตำรวจให้ดำเนินคดีกับนายอดิศรหรือโป้ อย่าเพิ่งปล่อยตัวนายอดิศร ทาสยานรกออกมาเพราะจะออกมาก่อกวนชาวบ้านอีก โดยระบุว่าอาจจะต้องมีการฆ่ากันตายเกิดขึ้นแน่นอน เพราะชาวบ้านยังเกิดอาการผวาภัยและโกรธแค้นนายสุพล หรือโป้ เป็นอย่างมาก แต่ในที่สุดทางตำรวจ สภ.สิชล ก็ปล่อยตัวนายอดิศรหรือโป้ ทาสยานรกออกมา และกลับมาอยู่บ้านก่อนก่อเหตุร้ายแรงที่ขึ้นอีกดังกล่าว ซึ่งก่อนเกิดเหตุช่วงสายวันนี้(18 ม.ค.) ในขณะที่นายวิโรจน์ ผู้ตายอยู่ในบ้าน นายอดิศร หรือโป้ ที่เมายาคลุ้มคลั่ง ได้เดินชี้หน้าด่าทอ นายวิโรจน์ ผู้ตายอย่างรุนแรง ทำให้นายวิโรจน์ สุดทนทนไหวได้คว้าปืนขนาด .32 ออกมาถือออกไปยืนข่มขู่นายอดิศร ผู้ต้องหา พร้อมสอบถามเรื่องที่นายอดิศร อาละวาดทำร้ายร่างกายของภรรยานายวิโรจน์ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา จนมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง โดยนายอดิศร หรือโป้ ไม่ได้กลัวอาวุธปืนในมือของนายวิโรจน์แม้แต่น้อย ได้ตรงเข้าชกต่อยนายวิโรจน์ จนเกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันชุลมุน โดยนายวิโรจน์ ไม่กล้ายิงและต้องการถือปืนมาแค่ข่มขู่เท่านั้น จนในที่สุดนายอดิศร ทาสยานรก สามารถไแย่งปืนมาจากมือนายวิโรจน์ ผู้ตายมาได้ ก่อนใช้ปืนรัวยิงหมดโม่ 6 นัด คมกระสุนพุ่งเจาะท้ายทอย 1 นัดและเบ้าตาขวา อีก 1 นัด ล้มคว่ำเสียชีวิตจมกองเลือดทันที ส่วยอีก 4 นัดกระสุนพลาดหลังก่อเหตุนายอดิศรหรือโป้ มือปืนได้ถูกชาวบ้านและตำรวจสายตรวจบุกล้อมเข้าจับกุมในที่สุดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุพล พูลสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลสิชล และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง พากันมารวมตัวกันในที่เกิดเหตุ และแสดงความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นทั้งๆ ที่ตอนเกิดเหตุนายอดิศร หรือโป้ คลุ้มคลั่งยานรกทำร้ายร่างกายนางวิภา สินรากหอย อายุ 66 ปี ภรรยาของนายวิโรจน์ฯ ผู้ตายและชาวบ้านจนถูกตำรวจจับกุม ขอร้องอย่าให้ปล่อยให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด แต่ทางตำรวจกลับปล่อยออกมาจนเกิดเหตุร้ายทำให้นายวิโรจน์ ถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สมชาย ซิ่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เกรงเรื่องราวจะบานปลาย จึงได้รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ และอำนวยการสอบสวนด้วยตัวเอง
โดยผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าในพื้นที่แต่ละอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีทาสยาเสพติดจนสติเพี้ยนคลุ้มคลั่งพร้อมที่จะทำร้ายคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านอยู่เป็นจำนานมาก ในแต่ละวันเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละโรงพักได้รับแจ้งให้ไประงับเหตุคนคลุ้มคลั่งยาเสพติดวันละหลายครั้ง ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อถูกจับกุมก็ปล่อยออกมาโดยไม่ดำเนินคดีใด ๆ หรือดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษติดคุกไม่นาน หรือก็ออกมาสร้างปัญหาซ้ำซาก จนมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อบาดเจ็บและสังเวยชีวิตไปแบบเดียวกับนายวิโรจน์ มุสิกพงศ์ ไปแล้วหลายราย ชาวบ้านเรียกร้องตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามยาเสพติดต้นตอของปัญหาอย่างจริงจังเพราะนับวันสถานการณ์จะทีวีควสามรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ .
กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/จ.นครศรีธรรมราช
