วันที่ 20 ม.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) หรือ ศบค. ว่า เรื่องการเมืองตนเคยพูดเสมอว่าตนเคารพในกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งตนในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าฝ่ายบริหารราชการแผ่นดินมีความรับผิดชอบในภาพรวม และตนก็เข้ามาด้วยกระบวนการตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ โดยถูกเสนอชื่อโดยพรรคการเมืองที่มีคะแนนเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาลเสนอชื่อตนขึ้นมา ผ่านการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ซึ่งหลายคนไปบิดเบือนว่าสว.สืบทอดอำนาจให้ตนนั้น ถามว่าหากพรรคไม่มีคะแนนเสียงมากพอแล้วจะเสนอชื่อตนได้หรือไม่ ดังนั้นใครหรือพรรคใดคะแนนสูงแล้วเสนอรายชื่อนายกฯ สว.ก็คงไม่มีปัญหา ซึ่งย้ำว่าตนยอมรับกติกาทุกอย่าง จึงอย่าเอาการเมืองมาพันทุกเรื่อง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถูกกรรมการบริหารพรรค มีมติขับพ้นพรรคพร้อมส.ส.อีก 20 คน ว่า เป็นเรื่องของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของพรรคดำเนินการ เชื่อว่าเป็นความต้องการทำให้สถานการณ์ปกติให้มากที่สุด โดยทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับประชาชน ที่ต้องมองใครเป็นอย่างไร ดังนั้นขอให้ติดตามพฤติกรรมของแต่ละคนด้วย ซึ่งตนไม่ได้กล่าวว่าใครดีไม่ดี แต่พฤติกรรมจะเป็นตัวกำหนด และให้ประชาชนคัดกรองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และยืนยันว่าตนไม่ได้คิดจะดำเนินการในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือยุบสภาอะไรต่างๆ โดยเฉพาะขณะนี้กฎหมายก็ยังไม่เรียบร้อย จึงอย่าเอาทุกอย่างมาตีทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนไม่ใช่คนที่จะพูดได้ว่ารักใครชอบใคร หลายอย่างต้องเก็บไว้กับตัว อย่างไรก็ตามขอบคุณประชาชนที่เชื่อมั่นและเชื่อถือที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ได้วางอนาคตไว้พอสมควร โดยเฉพาะแก้ปัญหาที่หมักหมม เป็นภาระของตนที่ทำให้การทำงานใหม่ๆออกมาได้ช้า โดยต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่และข้าราชการด้วย ซึ่งตนเข้าไปลงรายละเอียดในทุกเรื่อง อะไรติดขัดตรงไหนก็พร้อมสั่งการเพิ่มเติมให้ ไม่เคยว่างเว้นการทำงาน
ทั้งนี้เมื่อถามอีกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ได้ส่งสัญญาณอะไรมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ส่งความรักความปรารถนาดีให้กัน เคารพซึ่งกันและกัน”