“ประภัตร” แจงรัฐบาลไม่ปกปิดโรคระบาดหมู ลั่นผมไม่ได้แกล้งเซ่อ แต่ตรวจไม่เจอจริง!

“ประภัตร” แจงรัฐบาลไม่ปกปิด โรคระบาดสุกร โชว์ผลแล็ปยันตรวจซากหมูตายเป็นพีอาร์อาร์เอส ลั่น “ผมไม่ได้แกล้งเซ่อ แต่ตรวจไม่เจอจริง”

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 23 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ช่วงกระทู้ถามสดของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่ตั้งถามถึงโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ)ในสุกรว่า เมื่อเดือนส.ค.ปี 2562 เจอซากสุกรลอยน้ำในแม่น้ำโขง ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตนลงพื้นที่ด้วยตนเอง และได้ตรวจพิสูจน์ซากเชื่อว่าเป็นโรคระบาดในสุกร ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นต้องกำจัดด้วยการทำลายสุกร อย่างไรก็ดีการป้องกันโรคระบาด ช่วงแรกเอกชนลงขันเป็นเงินหลัก 100 ล้านบาท และคิดเป็นค่าเผาทำลายสุกร รวม 90 ล้านบาท ทั้งนี้สุกรยังไม่เป็นโรค แต่ต้องสกัดกั้นการระบาด

“ผลแล็ประบุว่าไม่พบอหิวาห์แอฟริกา เป็นตรวจไวรัสแต่เป็นพีอาร์อาร์เอส ดังนั้นไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมรับ แต่ผลแล็ปยืนยันมาแบบนี้ ผมขอทำความเข้าใจกับสมาชิกต่อกรณีการปกปิดทั้งนี้โรคในสุกรที่ตายจำนวนมาก คือ โรคเอเอสเอฟ, โรคพีอาร์อาร์เอส ระบบสืบพันธุ์และระบบหายใจ และซีเอสเอฟ อหิวาห์ในสุกร ซึ่งอาการของโรคนั้นเหมือนกัน และตายภายใน 1 วัน โดยเอเอสเอฟ ไม่มีวัคซีน ส่วนโรคพีอาร์อาร์เอส เกษตรกรไม่อยากฉีดเพราะยามีราคาแพง ส่วนซีเอสเอฟ ฉีดได้ทุกตัวเพราะราคาถูก อย่างไรก็ดีผลแล็ป อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ที่ตายพอสมควร ระบุว่าเป็นพีอาร์เอส ส่วนโรคซีเอสเอฟ เพิ่งเจอปี 2565 ที่โรงฆ่าสัตว์นครปฐม อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่มีการปกปิด สำหรับหมูที่ตายทั้งสิ้น 2.7 แสนตัว ผลแล็ปบอกว่าเป็นพีอาร์อาร์เอส” นายประภัตร ชี้แจง

นายประภัตร ชี้แจงด้วยว่าปริมาณหมูในประเทศมีจำนวน 19 ล้านตัว ทั้งนี้ มีกลุ่มผู้เลี้ยงรวม 1.9แสนราย แบ่งเป็นรายย่อยและรายเล็ก 1.8 แสนราย มีปริมาณหมูที่เลี้ยง ประมาณ 4ล้านตัว ขณะที่รายใหญ่ 200 ราย และ รายกลาง 3,000 ราย มีปริมาณหมูที่เลี้ยง 15 ล้านตัว ส่วนราคาหมูที่มีราคาแพง ซึ่งกรมการค้าภายใน เป็นผู้กำหนดราคา โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาเนื้อหมูแพง เนื่องจากราคาอาหาร และ ราคาลูกหมู โดยในเดือนพฤศจิกายน พบว่าเดือนพฤศจิกายน64 ราคาต้นทุนการเลี้ยง 82 บาท เขียงหมูขาย 160 บาท แต่ในเดือนธันวาคม 64 – มกราคม 65 ต้นทุนขึ้น 91 บาท ราคาหน้าฟาร์ม 110 บาท ราคาขายเนื้อแดง 215 บาท

ทั้งนี้นายจุลพันธุ์ได้ขอท้าพิสูจน์ให้ขุนศพหมูขึ้นมาตรวจอีกครั้ง เชื่อว่าจะเจอโรคเอเอสเอฟแน่นอน อย่างไรก็ตามการปกปิดข้อมูลดังกล่าวมีเป็นอย่างระบบ นอกจากนั้นในส่วนของราคาเนื้อหมูที่สูงขึ้น เชื่อว่ามีผู้ได้ประโยชน์จากผู้ค้าที่เก็บสต็อกเนื้อหมู และตนพร้อมจะพาไปแหล่งที่เก็บสต็อกเนื้อหมู ไม่ใช่ไปตรวจสต็อกที่โรงเนื้อแกะและเนื้อวัว

โดยนายประภัตร กล่าวยอมรับว่า “ผมไม่ได้แกล้งเซ่อ แต่ตรวจไม่เจอจริง”

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น