ตร. แนะแนวทาง “3 ไม่ 1 ควร”ชวน ปชช.ร่วมเป็นเครือข่ายให้ข้อมูลช่วยกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตร. แนะแนวทาง “3 ไม่ 1 ควร”ชวน ปชช.ร่วมเป็นเครือข่ายให้ข้อมูลช่วยกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันที่ 20 ม.ค. 2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะขึ้นแก่ประชาชน โดยเฉพาะการสูญเสียทรัพย์สินจากการถูกหลอกลวง โดยให้มีการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด และหากพบผู้กระทำความผิดจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ถึงแนวทาง “3 ไม่ 1 ควร” ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยป้องกันการถูกหลอกลวง และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากร เพื่อกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ดังนี้
1. “ไม่ตกใจ” หากมีแจ้งว่าท่านหรือบุคคลในครอบครัวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือเกี่ยวกับการฟอกเงิน และท่านอาจถูกดำเนินคดี อย่าเพิ่งตกใจ ให้ตั้งสติให้ดี และระมัดระวังในการสนทนากับบุคคลดังกล่าว เพราะมีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐจริง
2“ไม่เชื่อ” หากได้รับสายจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือองค์กรต่าง ๆ ให้สอบถามก่อนว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใด มี ยศ ชื่อ-สกุล และตำแหน่งใด ถ้าหากมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยควรสอบถามไปที่หน่วยงานดังกล่าวโดยตรง
3. “ไม่โอน” หากมีการอ้างว่า ต้องให้ท่านโอนเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ห้ามโอนเงินให้เด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีทางที่จะขอให้ท่านโอนเงินมาให้ตรวจสอบแน่นอน
4. “ควรแจ้งเจ้าหน้าที่” หากท่านได้รับสายที่น่าเชื่อว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงพี่น้องประชาชน ควรแจ้งเบาะแสของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรศัพท์มาหาท่านให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ โดยเฉพาะเบาะแสเกี่ยวกับช่องทางการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ และหมายเลขบัญชีธนาคาร เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถระงับหรืออายัดบัญชีธนาคารของคนร้ายและสามารถติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่า ในขณะนี้มิจฉาชีพเหล่านี้ได้สร้างเดือดร้อน และความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยเป็นจำนวนมาก และมีการพัฒนาการหลอกลวงไปในหลายรูปแบบ สำหรับแนวทาง “3 ไม่ 1 ควร”เป็นการเน้นและย้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ

อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ร่วมเป็นเครือข่ายเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากพบเจอ แก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงเหล่านี้ ท่านสามารถแจ้งเบาะแสของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พีช" หนุ่มขับ BMW คุมอารมณ์ไม่อยู่ โวยสื่อหลังโดนกล้องกระเเทกหัว
เตรียมสนุกครบรส งานมหกรรมอาหารพื้นบ้าน สืบสานตำนานวิถีถิ่นอยุธยา 25-29 เมษายน 2568 ที่ วัดหลังคาขาว
"ภูมิใจไทย" ลงมติเอกฉันท์ ให้ "เอกราช ช่างเหลา" พ้นสมาชิกพรรค
เปิดใจ "นายกเบี้ยว" ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงป้าคู่กรณี ขอสังคมให้โอกาสลูกกลับตัว
สีจิ้นผิงชี้การกระทำฝ่ายเดียวไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
อินโดนีเซียจะลดภาษีและเพิ่มนำเข้าเชื้อเพลิงจากสหรัฐ
โผล่แล้ว ลูกชาย "นายกเบี้ยว" เสียงสะอื้นขอโทษ อ้างตกใจหนีนอนบ้านเพื่อน ไม่เห็นลุงป้ายกมือไหว้
จีน-กัมพูชากำหนดให้ 2568 เป็นปีท่องเที่ยวระหว่างกัน
สหรัฐสั่งเก็บค่าธรรมเนียมเรือสินค้าจีน
การรถไฟฯ ร่วมกับ สจล. จัดกิจกรรม Doctor Train ครั้งที่ 8 ชวนพนักงานการรถไฟฯ ครอบครัว และประชาชนพื้นที่ใกล้เคียง เข้ารับบริการตรวจสุขภาพฟรี 29-30 เม.ย. 68 ที่สถานีรถไฟนครสวรรค์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น