“หมอศิริราช” ชี้รัฐบาลไทย รับมือโควิดไม่ขี้เหร่ แถมดีกว่าหลายประเทศ!

“หมอศิริราช” ชี้รัฐบาลไทย รับมือโควิดไม่ขี้เหร่ แถมดีกว่าหลายประเทศ!

รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้ ตัวเลขผู้ป่วยวันนี้เพิ่มขึ้นไปเล็กน้อย โดยในกทม.-สมุทรปราการ-นนทบุรี-ปทุมธานี รวมกันแล้วราวหนึ่งในสามของตัวเลขทั้งประเทศ หวังว่าจะไม่กลับไปเกินครึ่งหนึ่งของประเทศเมื่อครั้งเดลตายังเป็นเสาหลัก มาตรการผ่อนคลายเพิ่มขึ้นที่ฝ่ายนโนบายแถลงตามมา มีทั้งฝ่ายที่ร้องเย้และฝ่ายที่ร้องยี้ คงไม่มีทางทำให้ทุกฝ่ายถูกใจได้ เพียงแต่ทำอย่างไรให้คนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์มากที่สุด สำหรับพวกที่หวังผลเขย่าเก้าอี้ลุง คงต้องรอและหมั่นขย่มกันต่อไป เพราะในสายตากรรมการแล้ว การรับมือโควิดของฝ่ายนโยบายไม่ถึงกับขี้เหร่ ออกจะดีกว่าหลายประเทศเสียด้วยซ้ำ

รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิพัฒน์ ระบุต่อว่า อย่าคิดว่าประเทศที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตยจ๋า จะบริหารจัดการสถานการณ์ได้ดีไปทั้งหมด ดูประเทศอังกฤษเป็นตัวอย่าง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบของสายธารประชาธิปไตยโลก แต่การจัดการกับโควิดดูค่อนข้างโหลยโท่ย จนภาคการแพทย์ต้องออกมาเตือนรัฐบาลครั้งใหญ่หลังจากโอไมครอนระบาดได้ไม่นาน แต่รัฐบาลกลับทำเมินเฉยพร้อมสำทับว่า จะจับตาสถานการณ์ใกล้ชิดต่อไปแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง แล้วทุกอย่างก็เหมือนลอยไปในสายลม ล่าสุดได้มีการส่งคำเตือนไปอีกครั้งว่า หากยังเพิกเฉยจะมีผู้ป่วยโควิดที่ต้องเข้าโรงพยาบาลวันละ 3,000-10,000 คน และเสียชีวิต 600-6,000 คน การแพร่ของโอมิครอนเกิดขึ้นรวดเร็วมาก หากไม่รีบตัดสินใจคุมเข้มเกรงว่าจะกลับตัวไม่ทันเมื่อภัยร้ายใกล้เข้ามา แต่ก็ยังไม่เห็นทีท่าใส่ใจจากฝ่ายรัฐบาล จนผู้นำฝ่ายแพทย์คนหนึ่งต้องออกมากล่าวเตือนเชิงประชดว่า เสียดายที่แพทย์และนักวิทยาศาสตร์อังกฤษได้เป็นผู้นำโลกในการเรียนรู้เกี่ยวกับโควิดมามากมายตลอดสองปี กลับไม่สามารถชักจูงให้รัฐบาลของตัวเองเห็นคล้อยตามได้ บ้านเราลุ่มๆ ดอนๆ กับนโยบายควบคุมโควิดของฝ่ายนโยบายกันมาจนปัจจุบันชักเข้าขากันดี ในยามที่ภาคการแพทย์ผนึกกำลังเรียกร้อง ทุกครั้งก็จะได้รับการสนองตอบที่ดี แม้อาจจะไม่ถูกใจของทุกฝักฝ่ายในภาคการแพทย์ไปได้เสียทั้งหมด

รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิพัฒน์ บอกอีกว่า โควิดสามารถเปลี่ยนได้ทุกสิ่งอย่างในโลกนี้ เปลี่ยนรัฐบาลหรือเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี หรือเปลี่ยนรัฐมนตรีสาธารณสุขของหลายประเทศ เปลี่ยนขั้วการเมืองไปก็หลายประเทศ เปลี่ยนขั้วหรือทำให้เกิดขั้วในฝ่ายแพทย์ก็มีให้เห็นถมไป ที่สำคัญจากเรื่องเล่าวันนี้ คือเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยเฉพาะของบุคคลที่พร่ำสอนผู้ป่วยในความดูแล ให้ใส่ใจปกป้องสุขภาพไว้ให้ดี อย่าให้ใครหรืออะไรมาบ่อนเซาะได้โดยง่าย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น