จากกรณีที่ช่างภาพ เพจข่าวออนไลน์ เข้าขอคำชี้แจงจากผู้กำกับสน.หัวหมาก เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจในพื้นที่ เรียกตรวจค้นรถ และพาตัวไปตรวจปัสสาวะที่โรงพัก โดยระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ผู้เสียหายได้บันทึกวีดิโอไว้เป็นหลักฐาน แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว บอกให้ลบคลิปจึงเกิดข้อสงสัยถึงสิทธิในการขอตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ รวมถึงสิทธิในการบันทึกภาพส่วนบุคคล ซึ่งทางรองผู้กำกับสน.หัวหมาก ได้ออกมาชี้แจงระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีสิทธิในการขอตรวจค้น หากพบพิรุธ หรือสิ่งผิดปกติ ส่วนประชาชนก็สามารถบันทึกวีดิโอระหว่างถูกตรวจค้นได้ เพียงแต่ที่เจ้าหน้าที่ขอให้ลบคลิป เพื่อแสดงความหวังดี และได้มีคำสั่งเรียกตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวเข้ามาตักเตือนแล้ว
อย่างไรก็ตามทีมข่าว TOPNEWS ได้ไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรณีดังกล่าว กับ ทนายรัชพล ศิริสาคร ระบุว่า ตามหลักแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการสุ่มตรวจ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ นอกจากจะมีเหตุอันควรสงสัย จึงจะมีอำนาจในการขอตรวจสอบได้
จากกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายรายนี้ ผู้เสียหายไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี หรือผิดสังเกต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่มีอำนาจใจการขอตรวจค้น ในส่วนประชาชนหากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้น ควรมีพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอเหตุผลในการขอตรวจข้น หากเหตุผลของเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ สามารถปฏิเสธการยินยอมให้ตรวจค้น แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันที่จะทำการตรวจค้น โดยนำกฎหมายเข้าอ้าง บุคคลผู้นั้นสามารถบันทึกวีดิโอเพื่อใช้เป็นหลักฐานได้ทันที เพื่อปกป้องสิทธิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธิห้ามไม่ให้บันทึกภาพ เพราะการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งการบันทึกภาพไว้ถือเป็นหลักฐานไม่ใช่การขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ส่วนความผิดในเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นเรื่องของบุคคล ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหน้าที่ ที่จะมาบังคับให้บุคคลลบ และหากบุคคลได้รับการบังคับให้ลบ ก็สามารถดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที