เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “พปชร.กลายพันธุ์ 1. หลังกรณีขับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และพวกออกจากพปชร.ไม่ถึง 3 วัน ภาพการเมืองในเรื่องนี้ก็ชัดเจนขึ้นแล้วว่าพปชร. ได้กลายพันธุ์เรียบร้อยแล้ว คือแตกตัวจาก 1 เป็น 2 2. พปชร.เดิมลุงป้อมและคณะกรรมการบริหาร ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับผู้กองธรรมนัส ลดจำนวนไปเพียง 3 คน ยังคงกุมอำนาจพรรค โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นผู้ช่วยลุงป้อม และในส่วนนี้มีส.ส. สายตรงของลุงป้อม 56 คน. 3. ส่วนที่กลายพันธุ์มีความชัดเจนว่าจะไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งพลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องสุดเลิฟของลุงป้อมตั้งพรรครอวันนี้อยู่ก่อนแล้ว และวันใดที่กลุ่มผู้กองธรรมนัส 27 คนมาเข้าพรรค กลุ่มนี้ก็จะมี ส.ส. 27 คน โดยมีผู้กองธรรมนัส เป็นแกนนำเพิ่มและทั้ง 3 ขุนพลนี้จะเดินเกมการเมืองได้โดยอิสระ โดยเฉพาะคือการจับขั้วตั้งรัฐบาลหลังจากเลือกตั้ง 4. ส.ส. 2 พรรค มีจำนวนรวมกัน 83 คน จึงมีผลต่อการดำรงอยู่ หรือการล่มสลายของอำนาจลุงตู่โดยตรง ภายใต้หน้าฉากที่เขียนป้ายว่า “เราจะไม่พรากจากกันจนวันตาย”
นายไพศาล ระบุต่อว่า “โดยสภาพเช่นนี้ แม้จะมีการเตะตัดขา ทำให้การกลายพันธุ์ชะงักหรือไม่ก็ไม่มีผลต่อจำนวนเสียงในสภา เพราะถึงแม้การย้ายพรรคจะช้าบ้างเพียงใด แต่ภายในก็มี 2 สายอยู่นั่นเอง คือสายฟรีแฮนด์ และสายเราจะไม่พรากจากกันจนวันตาย จังหวะก้าวการเดินหมากการเมืองแต่ละฝ่ายต่อไปคงละเมียดละไม ล้ำลึกกว่าที่นึกคิดกัน ประการที่ 5 ปฏิบัติการ io ของขบวนองค์รักษ์เสื้อแพร ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ขนานนามไว้ในรายการสนธิ Talk ประจำวันที่ 21 ม.ค. 2565 ไม่มีผลต่อการกลายพันธุ์ดังกล่าวเลย ยิ่งบางสาย เปิดกระแสไล่ลุงป้อมออกจากหัวหน้าพรรคพปชร. ด้วยแล้ว ก็มีแต่จะเติมพลังขับเคลื่อนของ 3 ขุนพลให้แรงขึ้นตามไปด้วยปรากฏการณ์สภาล่ม เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565 ตั้งแต่ไก่โห่จนต้องใช้วิธีชิงปิดประชุมก็ดี การเร่งร้อนปิดประชุมสภากลาโหมซึ่งประชุมเพียง 30 นาที โดยมีถ้อยคำแปลกๆ กับผู้นำเหล่าทัพแบบพิกลก็ดี ได้สะท้อนเบื้องลึกถึงสถานการณ์ทั้งด้านสภา และกองทัพ ที่น่าสนใจยิ่งสถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงใหม่ชัดเจนแล้ว”