เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมงานเพจเพจภาคีประชาชนปกป้องสถาบันฯ ทีมนักรบองค์ดำ เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.เพื่อให้ปากคำเอาผิด 8 ข้าราชการชุดแรกที่ตรวจสอบพบการกระทำผิดข้อหา ป.อาญา ม.112 โดย บก.ปอท.จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามพยานหลักฐานเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
น.ส.วริษนันท์ แอดมินเพจเชียร์ลุง เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาติดตามเรื่องจากเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ทีมงานภาคีปกป้องสถาบันได้นำเอกสารหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ตรวจสอบ 51 ราย พบว่าเข้าข่ายกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ชุดแรกจำนวน 8 ราย และ เพิ่งได้รับแจ้งว่า สัปดาห์หน้าจะดำเนินคดีอีก 12 ราย วันนี้พวกเราจึงต้องตบเท้ากันเข้ามาทำหน้าที่ประชาชนพลเมืองที่ดี ให้ปากคำแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดต่อพนักงานสอบสวน ทั้ง 8 ราย
นอกจากนี้วันนี้เรายังนำหลักฐานเอาผิดข้าราชการอีก 3 รายเป็นศึกษานิเทศก์ และครู มามอบพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมด้วย สรุปรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 54 ราย ฝากเรียนข้าราชการทุกระดับชั้นทุกกระทรวงทบวงกรม ท่านไม่มีสิทธิที่จะโพสต์-คอมเม้นต์หรือแชร์ข้อความจากรูปภาพ เสียง ที่เกี่ยวกับสถาบัน ในลักษณะหมิ่นฯ ถ้าคุณเจอคนที่เขาจาบจ้วงสถาบันฯ หน้าที่คุณควบที่จะต้องมาทำแบบเรา เราคาดหวังว่าข้าราชการต้องมาทำแบบเรา ไม่ใช่เป็นผู้ลงไปกระทำผิดเสียเอง เราเจ็บปวด เหนื่อยใจ เห็นแล้วเสียความรู้สึกหลายๆ อย่าง คุณเป็นข้าราชการ เป็นข้าของแผ่นดินจะต้องมีความจงรักภักดีมากกว่าคนปกติ 2-3 เท่า อย่างที่ประชาชนอย่างเราคาดหวัง แต่นี่กลับทำตรงกันข้าม หากคุณคิดว่าใช้บัญชีอวตาร ปิดบังข้อมูล จะฝากบอกว่าเทคโนโลยีสมัยนี้ตรวจสอบได้
ดั่งคำที่ว่า อาชญากรจะทิ้งร่อยรอยเสมอ เราตรวจสอบได้เจอว่าคุณเป็นใครเบื้องต้นก่อนจะนำมาส่งให้พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ตรวจสอบและดำเนินคดี เห็นเป็นรูปธรรมแล้วชุดแรกวันนี้จำนวน 8 ราย ที่เราพบเป็นข้าราชการหลากหลายสังกัดแต่ที่เห็นแล้วเจ็บปวดคือตำรวจ ทหาร โดยเฉพาะครูอาจารย์ ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในระบอบการศึกษาทั้งหมด เป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการเร่งด่วน
อีกทั้ง อ.พรพรหม ฝากเตือนเพื่อนข้าราชการว่า ตัวข้าราชการนั้นประชาชนคาดหวังเป็นที่พี่ง เชื่อว่าท่านมีภูมิรู้ภูมิธรรมและภูมิฐานดังนั้นอะไรที่โพสต์หรือแชร์ลงไปในสังคมออนไลน์โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติของความเป็นข้าราชการคือเป็นผู้ที่เลื่อมใสในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญถ้ากระทำผิดอย่างน้อยก็จะต้องถูกลงโทษทางวินัยรวมทั้งอาญาแผ่นดิน ม.112 เป็นความผิดที่รัฐจะต้องดำเนินการได้ ขอให้ยึดถือที่ไหนของข้าราชการรู้จักอดทนอดกลั้นอย่าแสดงออกในทางที่มิควร เราเป็นห่วงท่าน ไม่ใช่ว่าเราต้องการกลั่นแกล้งใคร
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนเพื่อนข้าราชการทุกหน่วยงาน การแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ แต่ควรอยู่ในกรอบของกฎหมาย ระเบียบวินัยของข้าราชการ ไม่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ที่สำคัญไม่ควรเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่มีเนื้อหาพาดพิง หรือส่งในทางลบต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และข้อมูลที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และข้อมูลที่มีเนื้อหาลักษณะยั่วยุ เสียดสี บิดเบือน หรือโฆษณาชวนเชื่อ สร้างความแตกแยกต่อหน่วยงาน องค์กร สถาบัน สังคม ประเทศชาติ
