นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ ได้ออกมาโพสต์ข้อความอธิบายให้ความรู้กับกลุ่มต่างๆ ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการเยือนซาอุดิอาระเบีย ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยนายภัทร ระบุข้อความว่า ผมอ่านข่าวจากคอลัมนิสต์บางคนแล้ว ผมรู้สึกว่าการหาข่าวของบางสำนักตื้นเขินขึ้นทุกวัน บางคนไม่หาความรู้ในข่าวนั้นก่อนจะเขียนข่าว บางคนก็เอาความรู้สึกที่ไม่ดีกับตัวบุคคลหรือรัฐบาลเป็นที่ตั้งแล้วเขียนไปตามนั้น
ผมอ่านข่าวว่าลุงตู่ไปซาอุได้พบเพียงระดับรองผู้ว่าการฯ แคว้นริดยาด ลุงแกกระจอกมาก แต่ความจริงแล้วนั่นคือเจ้าชายที่รับลุงที่สนามบิน เจ้าชายโมฮาเหม็ด บิน อับเดล รอห์มัน รองผู้ว่าการมณฑลริดยาดโดยตำแหน่งแล้วก็คือผู้ว่าการฯตัวจริง เพราะว่าผู้ว่าการฯ โดยตำแหน่งแล้วคือกษัตริย์ ดังนั้นคนที่ทำงานจริงคือรองผู้ว่าการฯ และนั่นคือเพียงเจ้าชายที่ไปรับลุงที่สนามบิน แต่คนเขียนข่าวรู้ไหมว่าเป้าหมายจริงที่เข้าพบคือเจ้าชายเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด ที่ลุงแกไปพบ พระองค์ยังทรงเป็นมกุฎราชกุมารที่จะขึ้นครองราชในอนาคต และยังเป็นรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 เพราะโดยตำแหน่งแล้วนายกรัฐมนตรีก็เป็นกษัตริย์โดยตำแหน่งอีกเช่นกัน ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และประธานสภาเพื่อกิจการเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ถือเงินของประเทศจำนวนมหาศาล ลอลิงห้าตัว นอกจากกษัตริย์แล้ว พระองค์คือเบอร์สองตัวจริงของซาอุดิอาระเบีย และเป็นข่าวที่ใหญ่มากระดับลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ที่นั่น รวมถึงหนังสือพิมพ์ทุกฉบับของตะวันออกกลางก็ลงข่าวนี้
นายภัทร ระบุอีกว่า สายการบินซาอุดิอาระเบียแอร์ไลน์ก็ออกข่าวว่าจะเปิดเที่ยวบินไดเร็กไฟล์จากริดยาดมากรุงเทพในอีกสามเดือนข้างหน้าทั้งที่ลุงตู่แกยังไม่จบงานที่นั่นอีกด้วย ลุงแกยังไม่กลับบ้านเลยก็มีข่าวด้อยค่าการไปเยือนเพื่อสัมพันธ์อันดีที่หยุดไปสามสิบกว่าปีเสียแล้ว นั่นผมไม่ติดใจหรอกนะ จะรักจะชอบหรือเกลียดก็แล้วแต่สำนักสื่อหรือตัวผู้เขียนข่าว แต่การลงข่าวเท็จหรือความจริงครึ่งเดียวนั่นมันผิดจรรญาบรรณสื่อ ไม่ละอายตัวเองตอนเขียนข่าวกันบ้างหรือ