วัยรุ่นเลือดร้อน ขี่จยย.ปาดหน้ากัน สุดท้ายจบด้วยเลือด

วัยรุ่นเลือดร้อน เหตุเพราะขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้ากัน จึงต้องจบด้วยเลือด ย่านประชาอุทิศ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน และผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ภายในซอยประชาอุทิศ 33 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ภายในซอยประชาอุทิศ 33 พบกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน กำลังจับกลุ่มคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเข้าไปสอบถามพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 3 ราย มีลักษณะบาดแผลแตกต่างกันออกไป รายแรก คือ นายต้อง อายุ 25 ปี มีบาดแผลบริเวณแขนและข้อมือ คนที่ 2 นายกาญนิธิ ปฏิญานนท์ อายุ 28 ปี มีบาดแผลบริเวณศรีษะเป็นลักษณะแผลแตกจากการโดนก้อนหินทุบ และคนที่ 3 นายศุภกรณ์ หรือแบงค์ ดั่งเหลา อายุ 26 ปี มีบาดแผลจากถูกของมีคมเป็นทางยาวที่สีข้างด้านซ้าย อาสาสมัครจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นภายในที่เกิดเหตุ แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสามรายยืนยันว่า จะไปรักษาตัวและตรวจเช็คร่างกายเองที่โรงพยาบาล แล้วจะเดินทางไปแจ้งความต่อที่ สน.ราษฎร์บูรณะ

จากการสอบถาม นายกาญนิธิ เล่าว่า ตนเองกับเพื่อนนั่งดื่มกินกันอยู่ บริเวณจุดเกิดเหตุ แล้วมีรถจักรยานยนต์ จะเข้าในซอย แล้วเกิดมีการมองหน้าขี่รถปาดเข้าไป ตนเองจึงตามไปสอบถาม แต่ก็เคลียร์กันจบตรงนั้นแล้ว แต่พอคู่กรณีขี่รถออกไปสักพักนึง ก็เหมือนพาพวกมาอีกเกือบ 30 คน มารุมทำร้ายใส่กันนัวไปหมด ทั้งมีด ทั้งหิน ทั้งเก้าอี้ ขวด มาจากไหนไม่รู้ ตนโดนหินทุบที่หัว ส่วนเพื่อนโดนที่แขน และที่ลำตัว

ด้านนายศุภกรณ์ เล่าอีกว่า มีวัยรุ่นมาแล้วเราขี่รถสวนกัน เหมือนปาดหน้ากัน คู่กรณีได้ขอโทษตนเอง ก็คิดว่าเรื่องจบแล้ว พอคู่กรณีเดินออกมาก็ได้ทำท่าชักปืนใส่ตนเอง ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่า ตนเองตบหน้าคู่กรณีไป 1 ที สักพักนึงคู่กรณีโทรเรียกพวกมันมารุมตนเอง มากันเป็น 10 คน ตนเองอยู่กันแค่ 3 คน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพบาดแผลของผู้บาดเจ็บ และเก็บอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุทำร้ายร่างกาย แล้วเกลี่ยกล่อมแนะนำให้แยกย้ายกันกลับที่พัก เพื่อป้องกันการกลับมาก่อเหตุกันอีก และจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุดาวรรณ" เยี่ยมชมชุมชนชาวเลสังกาอู้-วิถีวัฒนธรรมชาวเลอูรักลาโวยจ จ.กระบี่
สจ.ธรรมชาติฟ้องตรงอัจฉริยะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
อย.ตรวจพบสารอันตรายใน อาหารเสริม “กัมมี่” แบรนด์ดัง เร่งดำเนินคดีตามกม.ผู้ผลิต
กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ
ตระกูล "สิงห์โตทอง" ทิ้งกระจาด ข้าวสาร-อาหารแห้ง 1 พันชุด ย้อนรำลึก "อดีตสส.ดรงค์ สิงห์โตทอง" ผู้ก่อตั้งสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ในวันชาวไร่อ้อยชลบุรี
สมศักดิ์ เผย มี ปชช. ร่วมนับคาร์บ ลดป่วย NCDs แล้วกว่า 6.4 แสนคน เดินหน้าอีก 16จว.กลาง-ตะวันออก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น