จากกรณีเทศบาลนครอุบลราชธานี นำสีแดง-ขาว ไปมาทับทางม้าลายเดิมที่ลบเลือนจากสภาพการใช้งานที่หน้าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนชะลอรถจากระยะไกล เพื่อหยุดรถให้คนเดินข้ามทางม้าลาย ซึ่งจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและโศกนาฏกรรมทางถนนที่อาจขึ้นซ้ำรอยหมอกระต่าย แต่หลังจากเจ้าหน้าที่เทศบาลทาสีทางม้าลายไม่ทันไร ปรากฏว่าเกิดประเด็นม่าขึ้นมา เมื่อแม่ค้าที่ขายของอยู่หน้าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กลับตั้งร้านทับทางม้าลาย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่สอบถาม นายธรธรรม์ ชินโกมุท รองนายเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้มีข้อตกลงระหว่างเทศบาลฯ กับคนชุมชนหน้าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โดยทางโรงพยาบาลอนุโลมให้ชาวบ้านขายอาหารหน้าโรงพยาบาลได้ในช่วงเช้าไปจนถึงตอนสาย เพื่อช่วยให้ปชระชาชนมีรายได้ แต่กรณีวางของทับเส้นทางม้าลาย ถือว่าผิดกฏหมายจราจร เจ้าหน้าที่จึงเปรียบเทียบปรับไป 500 บาท พร้อมขอให้เว้นทางม้าลายเอาไว้ โดยห้ามตั้งร้านขายของโดยเด็ดขาด
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายดนุพล ซึ่งเป็นชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ระบุว่า ที่หน้าโรงพยาบาลจะมีพ่อค้าและแม่ค้านำรถเข็นมาขายของ รวมทั้งเอาโต๊ะมาตั้งเป็นร้านขายอาหารในช่วงเช้า โดยจะขายของให้กับญาติที่มาเฝ้าไข้ หรือขายให้กับคนไข้ที่มาหาหมอ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล มานานหลายสิบปี โดยส่วนใหญ่จะขายตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึงเวลา 07.00 น. ซึ่งเทศบาลฯ อนุโลมให้คนในชุมชนรอบโรงพยาบาลประกอบอาชีพและให้บริการแก่ผู้ต้องการซื้อของ ส่วนกรณีที่แม่ค้านำโต๊ะมาวางทับทางม้าลายนั้น อาจเป้นเพราะความเคยชิน ส่วนการทาสีใหม่ทางม้าลายให้ถือเป็นเรื่องดีมาก เพราะบริเวณนี้จะมีคนพลุกพล่านเดินข้ามถนนตลอดทั้งวัน
ขณะที่ น.ส.ศศิกาญจน์ ชาวทอง ผู้ใช้ทางม้าลาย บอกว่า เป็นเรื่องดีที่เทศบาลทาสีทางม้าลายใหม่ ซึ่งช่วยให้คนขับรถเห็นเด่นชัดมากขึ้น จากนี้คงขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนขับรถ เพราะบางครั้งคนขับรถเห็นคนรอข้ามถนนแต่ไม่หยุดรถซึ่งเกิดบ่อย จึงอยากให้เทศบาลนำสัญญาณไฟให้คนข้าม มาติดที่ทางม้าลาย เพื่อตามปลอดถภัยของประชาชในพื้นที่